เบา ๆ นะพี่มันเจ็บ.. ผู้จัดการธนาคารกับเสมียนสาว

อ่านแล้ว 0 ครั้ง

airi-miyazaki-13

“ถุย! ผู้ชายห่าอะไรก็ไม่รู้ เซ่อเหมือนส้วม ทื่อเหมือนหุ่นยนต์ แต่งตัวก็เชยชะมัด ควงไปไหนก็น่าอาย” โฉมตรูตำหนิเพื่อนชายของเอิบพักตร์ เพื่อนสาวในหอพักเดียวกัน
“ไหนเห็นบอกว่าเป็นถึงผู้จัดการบริษัท” โฉมตรูแหงะหน้าไปทางเอิบพักตร์เป็นเชิงถาม
“ก็เห็นบอกเอิบยังงั้นนี่…! เขาสุภาพเกินไปจนทำให้คนอื่นมองเขาทื่อและเซ่อ”
“เชอะ! ถ้าเป็นเรานะเอิบ เขี่ยออกไปจากเส้นทางนานแล้ว”
“ถ้าเอิบจะเลิกคบกับเค้า เอิบจะบอกเค้าว่าอย่างไร เอิบเองก็เบื่อเต็มทนอยู่เหมือนกันนะโฉม”
“ไม่เห็นจะยาก หาคู่ควงใหม่ซีจ๊ะและถ้าเขามาชวนไปเที่ยวไหน ก็บอกเขาไปเลยว่าไม่มีเวลา ไม่ว่างไม่สบาย เบื่อเที่ยว อายเพื่อน แค่นี้มันก็หมดทาง แต่เธอจะใจอ่อนไม่ได้นะเอิบ” เธอหยุดนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ
“เออ! เอิบจ๊ะ แล้วคนที่ขับรถมาส่งเธอเมื่อวานนี้หละเป็นใคร? ท่าทางของเค้าเข้าท่าดีนะเอิบ แต่งตัวเก๋พูดจาคล่อง แถมสมาร์ทอีกด้วยนะเธอ…อย่างนี้สิค่อยน่า…หน่อย” เธอหยุดเว้นระยะแล้วพูดต่อ
“ท่าทางเหมือนนักเรียนนอกเพราะผมไม่เรียบแปร้เหมือนหุ่นกระบอกที่เธอเดินควง”
“เธอสนเค้าเหรอโฉม เอามั๊ยเอิบจะติดต่อให้”
“โอ๊ย! อย่างโฉมไม่จำเป็นต้องแย่งเพื่อนกินเพื่อนใช้หรอก ทุกวันนี้ก็เหลือเฟืออยู่แล้ว”
“หมายความว่าเธอ…?”
“ใช่แล้วเอิบ ผู้ชายกับโฉมเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนเสื้อผ้าสีนี้เราเบื่อเราก็เปลี่ยนสีใหม่ได้ มันเป็นสิทธิของเรา… เขาไม่ได้มัดเราไว้นี่นา” เธอพูดเหมือนไม่ยี่หระต่อชีวิตสาว
“ตอนนี้เรากำลังเป็นสาว และก้อสวยเสียด้วย สิ่งใดที่มันสามารถทำให้เราเป็นสุขได้ สิ่งนั้นเราก็ควรจะคว้าไว้ก่อน ถ้าเราแก่เป็นยายเพิ้งใครจะมาสนใจเรา เชื่อเถอะเอิบ…หรือเธอคิดจะกินปลาร้าก้นถ้วย เก่าหมดสมัยแล้ว”
“เปลี่ยนผัวเหมือนเปลี่ยนกางเกงในเป็นสมัยนิยมของคนยุคนี้” โฉมตรูเสริม
“เอิบไม่อยากทำตัวเป็นคนยุคใหม่ แม่เคยสอนก่อนจากบ้านมาอยู่กรุงเทพฯ”
“สอนว่าไงนะเอิบ พูดต่อสิ”
“เป็นสาวนะเป็นได้เพียงหนเดียว”
“โบราณ”
โฉมตรูพูดทิ้งท้ายไว้เพียงแค่นี้ ทำให้เอิบพักตร์เก็บไปคิดอยู่หลายวัน

เชิดศักดิ์ผู้จัดการหนุ่มแห่งธนาคารกรุงเทพได้แวะไปรับเอิบพักตร์ที่ออฟฟิซหลังเลิกงานเป็นครั้งที่สอง ตั้งแต่วันแรกที่เพื่อนแนะนำในงานเลี้ยงคืนนั้น
“คอยนานหรือยังคะ เชิดศักดิ์” เอิบพักตร์สาวสวยวัย 18 ปีถามแบบกันเอง
“ถึงนานแค่ไหนก็จะรอ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มให้
“วันนี้ผมตั้งใจจะมารับเอิบไปทานข้าวเย็นแถวปิ่นเกล้า ตกลงไหมครับ หรือว่าเอิบมีนัดที่อื่น”
“เห็นเอิบเป็นยังไงคะเชิดศักดิ์” เอิบพักตร์พูดค้อนขวับ
“แหม ลองใจดูเท่านั้นแหละ” เขาพูดและยิ้มแล้วพูดต่อ
“เป็นอันว่าเอิบตกลงใช่ไหม”
เอิบพักตร์พยักหน้าแทนคำตอบ
เชิดศักดิ์สตาร์ทรถซีตรองสีงาช้างแล้วพุ่งออกสู่ที่หมายทันที
“เอิบโทษนะ สาว ๆ อย่างเอิบคงมีแฟนเยอะนะครับ…ใครนะจะเป็นผู้ชายที่โชคดีคนนั้น”
“เอิบไม่เคยมีค่ะ เพราะเอิบไม่สวยอย่างที่คุณพูด ถ้าเอิบสวยรึคะป่านนี้คงแต่งงานไปแล้ว”
“เอิบไม่รู้ตัวจริง ๆ หรือนี่” เชิดศักดิ์เป็นนักรักตัวฉกาจ จึงพอจะรู้จุดอ่อนของผู้หญิง อันผู้หญิงทุกคนย่อมชอบคำชมเสมอ
“ถ้าผมจะขอแต่งงานกับเอิบ จะตกลงไม๊” เชิดศักดิ์พูดเป็นการรวบรัดเวลาให้สั้นเข้า
“ไม่เร็วไปหรือคะเชิดศักดิ์ ให้เอิบได้ดูใจไปนาน ๆ กว่านี้ก่อนแล้วค่อยคุยกันเรื่องนี้”
“ผมไม่ต้องการรอนะเอิบพักตร์เพราะการรอคอยเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุดสำหรับผม” เขาพูดพลางเอื้อมมือจับแขนเอิบพักตร์ เอิบพักตร์ทำเป็นแกะมือเขาออกด้วยมารยาหญิง
“เพราะในเร็ว ๆ นี้ผมจะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว ทำให้ผมอดเป็นห่วงเอิบไม่ได้”
“ทำไมหรือคะ”
“ก้อผมกลัวคนอื่นจะมาแย่งไปน่ะซีเอิบ” เชิดศักดิ์ไม่พูดเปล่า เอื้อมมือมาแตะที่ขาของเอิบพักตร์ จนเอิบพักตร์หน้าแดงเพราะความซ่านแห่งไฟโลกีย์
พอซีตรองสีงาช้างวิ่งเชิดหน้าขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ข้ามไปฝั่งธนบุรี เชิดศักดิ์หันหน้ามาถามความสมัครใจของแฟนสาว
“ภัตตาคารไหนดีครับ ผมให้คุณเป็นคนเลือก”
“ตามใจคุณเถอะค่ะ เอิบไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้”
“งั้นไป 35 โบลว์”
“ค่ะ” เอิบพักตร์ตอบไปอย่างนั้นเองทั้งที่เธอไม่เคยไปเลยสักครั้ง
เชิดศักดิ์ประคองร่างงามของเอิบพักตร์ขึ้นไปชั้นสองซึ่งเป็นภัตตาคาร ชั้นล่างเป็นสถานโบว์ลลิ่ง ภายในภัตตาคารซึ่งดูคล้ายค็อฟฟี่ช๊อปสลัวเลือนลางเหมาะสำหรับคนหนุ่มคนสาวที่จะพลอดรักกัน เพราะในช่วงนี้แขกยังไม่มาก เพิ่ง 5 โมงกว่า ๆ เท่านั้นโต๊ะจึงว่าง จะมีอยู่ก็เพียง 2 โต๊ะเท่านั้น
เชิดศักดิ์เลือกเอามุมที่มืดที่สุดเป็นที่นั่งพลอดรัก
“เอิบจ๋า ถ้าผมจะขออะไรเอิบสักอย่างเอิบคงไม่โกรธผมนะ” เชิดศักดิ์เมื่อดื่มเบียร์หมดขวดก็เริ่มวาดลวดลาย
“จะโกรธทำไมละคะเชิดศักดิ์”
“จริง ๆ นะ เอิบต้องให้สัญญาเสียก่อนว่าเอิบจะไม่โกรธผม” ความอ่อนต่อโลกทำให้เอิบพักตร์คิดไม่ถึงว่าเขากำลังคิดอะไรกับเธอ
“เอิบให้สัญญาค่ะ”
“ผมรักคุณและอยากจะแต่งงานกับคุณในวันนี้” เขาหยุดนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ
“ผมทนไม่ได้จริง ๆ นะเอิบ ผมไม่อยากห่างจากคุณเลย” เขาพูดพลางลูบต้นขาอ่อนของเอิบพักตร์เบา ๆ
“เป็นของผมเสียเถอะนะคนดี” เสียงเขาเริ่มกระเส่า
เอิบพักตร์ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะโกรธก็โกรธไม่ได้เพราะได้ให้สัญญาแล้ว จึงเพียงเลี่ยงตอบว่า
“วันหลังดีกว่านะเชิดศักดิ์ ให้เอิบไปนอนคิดดูก่อน”
“อย่าทรมานหัวใจผมเลยที่รัก ขอผมเถอะ”
ความไม่เคยของเอิบพักตร์ทั้งกลัวทั้งอยากลอง เธอคิดถึงคำพูดของโฉมตรูที่เคยพูดไว้กับเธอว่า
“เราควรจะกอบโกยความสุขเสียเถอะในขณะเรือนร่างเรายังมีค่ายังเป็นที่ต้องการของผู้ชาย มันไม่เสียหายตรงไหนนอกจากความสุข”

เชิดศักดิ์เหยียบคันเร่งซีตรองคันหรูเหมือนจะแข่งกับพายุเลี้ยวเข้าจอดสงบนิ่งภายในโรงแรมทีวี ถนนจรัลสนิทวงศ์
“อะไรนี่เชิดศักดิ์ พาเอิบมาที่นี่ทำไม”
“เหอะน่า เราเข้าไปคุยกันเงียบ ๆ”
“เชิญซีฮะ หรือจะให้บ๋อยมันมาดูหน้าก่อนถึงจะลง” เชิดศักดิ์ทำเป็นขู่
“ลงก็ได้” เอิบพักตร์รีบลงจากรถเดินเข้าห้องก่อน แล้วเชิดศักดิ์เดินตามเข้าไปทีหลังพร้อมกับล็อคประตู
ภายในห้องของโรงแรมเย็นฉ่ำด้วยแอร์คอนดิชั่น เอิบพักตร์เดินไปนั่งเก้าอี้นวมหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งเป็นกระจกบานใหญ่แล้วถอนหายใจ
“นี่หรือความรัก ความรักต้องเป็นอย่างนี้ทุกคนหรือ เค้าจะทำอะไรกับเอิบต่อไป ความสาวจะมาสิ้นสุดลงในห้องนี้” เธอคิดและคิดขณะเดียวกันเชิดศักดิ์ก็เดินตรงมาโอบไหล่เธอจนเธอสะดุ้ง
“ยามนี้เธอสวยจริง ๆ ดูในกระจกนั่นสิเอิบ”
เชิดศักดิ์หอมแก้มปลั่งของเธอเบา ๆ แล้วเลื่อนระเรื่อยหอมต้นคอเป็นการกระตุ้นไฟราคะของเธอให้ตื่นตัว…เอิบพักตร์ตัวสั่นขนลุกเกรียว
“อย่าค่ะ” เอิบทำเป็นผลักอกเชิดศักดิ์เบา ๆ ใจจริงแล้วเธออยากจะให้เขาซบต่อไป และไซร้ไปทุกแห่งในร่างงามของเธอ
เชิดศักดิ์แกะกระดุมเสื้อของเอิบพักตร์ออกจนเหลือแต่ยกทรง
อา! ช่างงามจริง ๆ นมสองเต้ากำลังกะเปาะเหลาะน่าจับ แม้จะซ่อนอยู่ภายในยกทรงก็ตาม เชิดศักดิ์ทั้งไซร้ทั้งใช้มือเปะปะไปทั่ว นับตั้งแต่ท่อนขา เขาเอามือสอดเข้าใต้กระโปรงลูบไล้เบา ๆ ปากก็ ซี๊ด…ซี๊ด…ด้วยความกระสันอยาก
“อุ๊ย อย่าจับตรงนั้นค่ะ เอิบเสียว”
“เอิบจ๋าของเอิบใหญ่จริง ๆ ดูสิ เต็มฝ่ามือเลย” เชิดศักดิ์ไม่พูดเปล่า เขาคลำดูสามเหลี่ยมทองคำของเอิบพักตร์ลูบไล้ไปมาเบา ๆ พร้อมดึงกางเกงในของเอิบลงมาไว้ที่เข่า
“เชิดขา อย่าเอานิ้วแหย่ตรงนั้นเลย”
“ทำไมหรือจ๊ะเอิบ”
“เออ…เอิบเสียว”
ซี๊ดดด….ซี๊ด…ซี๊ด…อูย
ยกทรงถูกถอดออก จึงเหลือแต่ร่างเปล่าเปลือย
“อุ๊ย เบา ๆ นะพี่มันเจ็บ”
เชิดศักดิ์ก่อนที่เขาจะดูดหัวนม เขาทำเป็นแลบลิ้นแตะ ๆ ดูก่อน เอิบพักตร์แอ่นอกให้อย่างลืมตัวด้วยความสยิวรัญจวนจิต
เอิบพักตร์ชำเลืองดูกระจกยิ่งทำให้เธอสยิวมากขึ้น เพราะภาพอันเปลือยเปล่าของเธอกำลังถูกเชิดศักดิ์ทั้งจับทั้งกอดทั้งดูดหัวนม
เชิดศักดิ์ก็แทบจะทนไม่ไหว เจ้ามังกรตาเดียวของเขาหัวส่ายไปมาด้วยความคึกคะนอง น้ำลายเริ่มไหลยืด
“เอิบจ๋า พี่จะเอาในชุดนี้เลยนะ มันส์ดี”
“ไม่ถอดกระโปรงออกก่อนรึคะ”
“เอาทั้งกระโปรงนี้แหละดี มันตื่นเต้น ถอดออกหมดมันธรรมดา”
“เชิดศักดิ์ขา เอิบเสียวจัง”
“ผมก็เสียวจ้ะที่รัก”
“โอ้โห จิ๋มใหญ่จริง ๆ เอิบใช้อะไรนวดหรือจึงมโหฬารอย่างนี้”
“ของเชิดศักดิ์ก็ใหญ่ ดูสิแข็งทื่อเลย” เอิบพักตร์เอามือจับมังกรตาเดียวของเชิดศักดิ์
“เดี๋ยวค่อยให้มันเข้าไปชมถ้ำของเอิบ ตอนนี้ปล่อยให้มันคึกเต็มที่ก่อน”
เชิดศักดิ์คุกเข่าลงตรงหน้าของเอิบพักตร์ พร้อมกับถลกกระโปรงขึ้นถึงเอว
“โอ้โห ขาขาวและอวบจังเลยเอิบ” เขาพูดและก้มลงจูบท่อนขาของเอิบพักตร์แล้วไซร้ขึ้นไปถึงเนินสวรรค์อันอวบใหญ่มีขนขึ้นเพียงเบาบาง เนินสวาทของเอิบพักตร์ขาวมองดูเรียบร้อยและสะอาด เชิดศักดิ์จ้องมองอย่างกระหายหิว
“พี่ทนไม่ไหวแล้วเอิบ พี่จะเลียจิ๋มเอิบล่ะนะ” เขาพูดพร้อมกับแลบลันแผลบ ซบหน้าลงตรงเนินนางทันที ลิ้นเขาเลียแคมสองข้างไปมา เอิบพักตร์สุดทนทานต่อลิ้นสากของเขา มือกำแน่นขาเหยียดตรง
เชิดศักดิ์ถ่างขาสองข้างของเอิบพักตร์ออก ลิ้นมหากาฬก็เริ่มดุนเลียแตด เอิบพักตร์กดหัวเชิดศักดิ์แน่น
“พี่ขาเสียวจังเลย เอิบน้ำจะไหลอยู่แล้ว”
เชิดศักดิ์ถอนหน้าขึ้นจากจิ๋มแล้วอุ้มร่างงามของเอิบพักตร์ขึ้นเตียงโดยมิรอช้า
เอิบพักตร์มือคว้าหมับเจ้ามังกรตาเดียวชักขึ้นชักลง
“เอิบจะอมของพี่บ้าง เอิบชอบ ดูสิผงกหัวด้วย”
เอิบพักตร์จับมังกรยักษ์ยัดเข้าปากอมรูดขึ้นรูดลง และขยับปลายลิ้นตระหวัดรอบหัว
“โอย เสียวจังเลยเอิบ มามะเอิบ” เขาเสียงกระเส่าดึงร่างของเอิบขึ้นมาหนุนหมอน
“พี่เอง พี่จะเอาไอ้นี่…” เขาพูดและชี้ไปที่มังกรตาเดียวของเขา “พี่จะให้มันดำดิ่งเข้าไปในรูจิ๋มของเอิบ”
ร่างงามนอนเหยียดยาวขาวผ่อง ขนตรงเนินสวาทลุกชันเหมือนประกาศตัวท้าทายให้มังกรมุดรู
เชิดศักดิ์ถ่างขาสองข้างของเอิบพักตร์ออกแล้วนั่งยอง ๆ ตรงกลาง พลางเอาเจ้ามังกรตาเดียวจ่อตรงจิ๋มแล้วจับให้มันดมตรงปากทางเข้า กลิ่นจิ๋มของนวลนางยิ่งเพิ่มพลังให้เจ้ามังกรกระหายอยากจะมุดเข้า
“อุ๊ยพี่ขา เอามันยัดเข้าไปในรูจิ๋มของเอิบเถอะ เอิบน้ำจิ๋มจะไหลอยู่แล้ว”
“เอามันเข้าเลยนะเอิบ”
“เบา ๆ หน่อยค่ะพี่รูจิ๋มน้องยังไม่เคย มันยังเล็กและแคบ”
“เจ็บค่ะพี่เจ็บ เบา ๆ หน่อย”
เชิดศักดิ์บรรจงกระเด้าให้เจ้ามังกรเสือกหัวเข้าทีละนิด ๆ
“เข้าได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เอิบใจเย็น ๆ เดี๋ยวก็มิดด้าม”
“เข้าแล้ว” เอิบพักตร์สะดุ้งเฮือก
“อูย เสียว ซี๊ด…ซี๊ด…ซี๊ด”
เอิบพักตร์เอามือรั้งก้นของเชิดศักดิ์แน่น
“กระเด้าซีคะ…เออนั่น…เออนั่น…เร็ว ๆ หน่อย…ซี๊ด…ซี๊ด…ซี๊ด”
“พี่จะออกแล้วเอิบ โอ๊ย โอ๊ย จะออกแล้ว”
เชิดศักดิ์กอดร่างของเอิบพักตร์แน่น พลางส่ายและกระเด้าถี่ยิบ
ซี๊ดด…ซี๊ด…ซี๊ด…โอ๊ย โอ๊ย ซี๊ด…ซี๊ด..ซี๊ด
“เอิบทนไม่ไหว ซี๊ด…ซี๊ด กระแทกแรง ๆ เร็ว ๆ โอย ซี๊ด…ซี๊ด…”
“อา ออกแล้ว น้ำของเอิบเยอะจัง”
“ก็เอิบเสียวนี่”
“ให้หายเพลียแล้วพี่จะเอาอีกให้หายอยาก”
“พรุ่งนี้เอิบคงเพลียแย่ เพราะน้ำจิ๋มของเอิบออกเยอะ”
“หนที่สองที่สามยังมีอีกนะเอิบเพราะจิ๋มของเอิบใหญ่ นมก็ใหญ่พี่จึงไม่เบื่อ ให้พี่แช่ควยไว้ในรูจิ๋มของเอิบทั้งคืนพี่ก็ยอม คืนนี้ไม่ต้องกลับบ้านนะเอิบ พี่จะพาเอิบขึ้นสวรรค์ทุก ๆ ชั่วโมง”
“ค่ะเอิบก็ชอบควยพี่ ควยพี่ใหญ่จริง ๆ” เป็นอันว่า ทั้งคู่สู่สมเสพสุขกันทั้งคืน