ครูกับลูกศิษย์..เนตรนารีน้อย

japanese-hardcore-32

สวัสดี ครับ ผมมีเรื่องราวที่ประทับใจเก็บเอาไว้นานแล้ว อยากจะแบ่งปันให้เพื่อนๆได้อ่านกัน เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมได้มีโอกาสไปค่ายลูกเสือของจังหวัดมา ผมไม่ใช่ลูกเสือหรอกครับ แต่เป็นครูที่ต้องรับผิดชอบพานักเรียนไปเข้าค่ายลูกเสือ ผมอายุ 26 ปีเป็นครูมา 3 ปีแล้ว เพิ่งจะได้มาค่ายนอกโรงเรียนครั้งนี้เป็นครั้งแรก ดังนั้นงานรับผิดชอบๆสำคัญๆเลยไม่ค่อยมีเท่าไหร่ครับ ได้แต่ดูแลลูกเสือที่ผมพามาให้อยู่ในความเรียบร้อยปลอดภัยเท่านั้นเอง และในค่ายครั้งนี้ไม่ได้มีแต่ลูกเสือเท่านั้นที่มาร่วมค่าย เนตรนารีก็มีมาเหมือนกัน ทั้งสามัญ สามัญรุ่นใหญ่ มากันครบเลยครับ ทีแรกผมเองก็ตั้งใจว่าจะดูแลนักเรียนของตนเองให้มันเสร็จๆเรื่องไป จริงๆก็ไม่ได้อยากมาค่ายนี้ด้วยซ้ำ เพราะเสียเวลาที่จะต้องสอนนักเรียนตั้ง 2 วัน (ค่ายนี้จัด 4 วัน พฤหัสถึงอาทิตย์เลยครับ) แต่สิ่งที่ทำให้ผมลืมเรื่องงานที่โรงเรียนไปเลยก็คือเธอคนนี้ครับ…
นุ่นเป็นเนตรนารีสามัญจากโรงเรียนในจังหวัดเดียวกัน(ขอสงวนนามโรงเรียน นะ ครับ) เธออยู่ ป.6 ครับ มีเพื่อนๆเธอมาด้วยกันอีก 7 คน แต่ผมสนใจนุ่นมากที่สุด เพราะนุ่นเค้าดูสดใส ร่าเริง น่ารัก ผิดกับเนตรนารีคนอื่นๆในค่าย พูดง่ายๆก็คือเห็นแล้วมันเตะตาผมน่ะแหละ ผมได้พบกับเธอครั้งแรกก็ตอนที่ต้องมาลงทะเบียนว่านักเรียนโรงเรียนไหนมากัน กี่คน โรงเรียนของเธอลงทะเบียนต่อจากโรงเรียนของผมพอดีครับ “ขอบคุณค่ะ” เธอยกมือไหว้ผมก่อนจะรับปากกาไปเขียนชื่อของเธอ เสียงขอบคุณของนุ่นฟังแล้วรื่นหูมากเลยครับ ฟังแล้วทำให้ผมรู้สึกได้ว่าเธอขอบคุณผมจากใจจริง และนี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมเริ่มสนใจในตัวเธอ…
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแล้ว ผมก็ไปช่วยเนตรนารีกลุ่มของนุ่นกางเต้นด้วย พอดีว่าผู้กำกับของพวกเธอคุยธุระอยู่น่ะครับ พวกของนุ่นดูยังเด็กเกินไปที่จะมาค่ายแบบนี้ เพราะนอกจากจะกางเต้นกันไม่เป็นแล้ว พวกเธอยังนั่งเปิดหวอให้ผมดูแทนคำขอบคุณกันแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ดีนะที่ผมบังเอิญอยู่แถวนั้น เลยได้เห็นของดีแบบนี้คนเดียว(อ่ะนะ) และจุดเริ่มต้นนี้ก็ทำให้ผมคิดกับนุ่นไกลกว่าที่ครูควรจะคิดกับลูกศิษย์ แต่ในวันนั้นก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านั้นครับ

ในวันที่สองเป็นวันที่ต้องเดินทางไกล หมู่ลูกเสือของผมได้เดินนำหน้าหมู่ของนุ่น แต่พวกมันเดินกันเร็วแล้วผมก็สนใจกลุ่มของนุ่นมากกว่า (ผู้กำกับของพวกเธอปล่อยปละละเลยอีกตามเคย) เลยกลายเป็นผมเดินนำหน้ากลุ่มของนุ่นไป และระหว่างนั้นก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นครับ อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อน แม้จะเดินในร่มไม้เพื่อคลายร้อนก็ช่วยไม่ได้มาก ในไม่ช้าระหว่างที่ต้องเดินทางจากฐานที่ห้าไปสู่ฐานที่หก อยู่ๆเธอก็เป็นลมล้มลงไปกองกับพื้น เพื่อนๆของนุ่นรีบเข้าไปมุงกันใหญ่ ผมเองก็ไม่ยอมยืนดูเฉยๆ รีบเข้าดูอาการของนุ่นทันที “ถอดกระดุมเสื้อนุ่นหน่อย จะได้หายใจสะดวกๆ” ผมสั่งพวกเพื่อนสาวของเธอไปตามวิธีการที่ควรจะทำเวลาที่มีคนเป็นลม ในใจตอนนั้นไม่ได้คิดเป็นอย่างอื่นนะครับ แต่แล้วพวกเพื่อนๆของนุ่นก็ทำให้ผมคิดจนได้ พวกเพื่อนๆของนุ่นดันปลดกระดุมเสื้อของเธอออกหมดทุกเม็ดเลยครับ ภาพที่ผมเห็นเบื้องหน้าทำเอาผมอ้าปากค้างไปเลย นุ่นไม่ได้ใส่เสื้อในครับ ภายใต้อกเสื้อที่ขยับขึ้นลงเบาๆตามจังหวะการหายใจ มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ที่กระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นของผมยิ่งนัก “พวกเธอออกไปยืนห่างๆหน่อย เดี๋ยวเพื่อนไม่มีอากาศหายใจ” ผมทำเป็นไล่เพื่อนๆของนุ่นออกไป จริงๆแล้วเพราะจะได้เป็นคนดูแลนุ่นอย่างใกล้ชิดนั่นเอง พอได้เข้ามาใกล้ๆนุ่นแล้ว กลิ่นตัวของเธอบวกกับกลิ่นเหงื่อยิ่งทำให้อารมณ์ของผมเตลิดไปไกล “ร้อนมั๊ย…นุ่น” ผมถามทั้งๆที่ยังพัดให้เธออยู่ นุ่นพยักหน้าเบาๆในลักษณะของคนที่อ่อนระโหยโรยแรง ผมมองไปรอบๆให้แน่ใจอีกครั้งว่าไม่มีใครอยู่แถวๆนั้น พวกเพื่อนๆของเธอก็ยืนอยู่ด้านหลังของผม ซึ่งไม่มีโอกาสจะเห็นว่าผมทำอะไรนุ่นบ้าง
“ดีขึ้นรึยัง…” ผมเอ่ยปากถามไป เอาหมวกพัดให้เธอไป ผมแกล้งพัดแรงๆจนเสื้อที่ปิดหน้าอกของเธอกระพือออก จนผมได้เห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น นุ่นเริ่มมีหน้าอกแล้วจริงๆครับ มันเป็นเนินนูนขึ้นมาขนาดย่อมๆดูแล้วงดงามมาก หัวนมของเธอเป็นสีชมพูเข้มๆที่ใกล้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเต็มที ผิวพรรณขาวๆของเธอยิ่งชวนให้เนินอกน้อยๆนั้นมีเสน่ห์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เธอส่ายหัวตอบผมเบาๆพร้อมกับส่งสายตาที่อ่อนระโหยโรยแรงมาให้ ผมไม่ควรจะฉวยโอกาสกับนุ่นเลยจริงๆ แต่พอได้เห็นหน้าอกเด็กป.6 ลอยอยู่ตรงหน้าชัดๆแบบนี้ ในหัวผมมีแต่ความสงสัยต่างๆนานาเต็มหัวไปหมด …หน้าอกนุ่นมันจะนิ่มขนาดไหนนะ… …ถ้าเขี่ยโดนหัวนมแล้วนุ่นจะเสียวเหมือนผู้ใหญ่รึเปล่า… …นุ่นจะทำหน้ายังไงเวลาที่เธอเสียว… ทุกเรื่องล้วนแล้วแต่เป็นความคิดอกุศลทั้งสิ้น แต่ผมก็ปล่อยให้มันวนเวียนอยู่ในหัวผมไม่หยุด อากาศที่แสนร้อนส่งผลให้เหงื่อของนุ่นเริ่มออก เมื่อรวมกับความที่เธอยังเด็ก ทำให้ผมกล้าพูดอะไรแผลงๆออกมาอีกจนได้
“เหงื่อออกเต็มเลย เดี๋ยวครูเช็ดให้นะ” ผมล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา พับเป็นผืนสี่เหลี่ยมเล็กๆแล้วประทับลงบนยอดอกของนุ่น ผ้าเช็ดหน้าผมเล็กกว่ามือ ทำให้นิ้วทั้งสี่ของผมสัมผัสกับผิวของเธอโดยตรง ผมลากมือจากบนลงล่างเช็ดเหงื่อให้เธอด้วยความทะนุถนอม ใบหน้าภายนอกของผมนั้นดูเฉยเมย แต่ในใจผมอยากจะร้องตะโกนออกไปด้วยความสุขใจ เนินอกของนุ่นนิ่มมือผมมากครับ เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสหน้าอกของเด็กผู้หญิงจริงๆ มันจะเป็นความทรงจำที่ประทับใจผมไม่ลืมแน่นอน ผมทำทีเป็นเช็ดตรงโน้นตรงนี้ แล้วก็แวะมาที่หน้าอกของนุ่นบ่อยๆ ใจเธอเต้นถี่รัวกว่าปกติจนผมรู้สึกได้ ในไม่ช้าผมก็รู้สึกว่าหัวนมของนุ่นมันแข็งตัวขึ้นมาครับ มันตั้งยอดชี้ขึ้นฟ้าให้เห็นเด่นชัด ผมได้แต่จ้องมันด้วยความรู้สึกทึ่งเป็นที่สุด เด็กป.6อย่างนุ่นก็รู้จักมีอารมณ์เป็นเหมือนกัน ได้เห็นแบบนี้แล้วเจ้าหนูของผมมันก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันที มันคงอยากจะทำหน้าที่ของมันเต็มที่แล้ว แต่ผมคงยอมให้มันทำลายชีวิตของผมไม่ได้หรอก
“เป็นลมอย่างนี้บ่อยมั๊ย” ผมหาเรื่องอื่นถาม ไม่อยากให้บรรยากาศมันดูตึงเครียดเกินไป เพราะดูเหมือนตอนนี้นุ่นจะไม่กล้าสบตาผมแล้ว(ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น นั่นแหละ) นุ่นส่ายหน้าแล้วก็ตอบผมว่า “เมื่อเช้าหนูไม่ได้กิน ข้าวมาค่ะ” เธอตอบแบบไม่มองหน้าผม แอบสังเกตที่นิ้วของเธอก็เห็นว่านุ่นเอานิ้วเขี่ยต้นหญ้าแถวนั้นเล่น ให้ตายสิ…นี่มันเป็นอาการเสียวของเด็กป.6ที่ดูน่ารักมากๆเลยนะครับ “นั่นไง…ครูว่าแล้วเชียว ดูสิ…หัวนมถึงได้ตั้งแบบเนี่ยะ” ผมหาเรื่องหลอกนุ่นจะได้จับหน้าอกเธอได้โดยที่เธอไม่รู้สึกผิดปกติ สำหรับเด็กที่ยังไม่ประสีประสาแบบนี้ ไม่มีทางตามอุบายของผมทันอยู่แล้ว ผมได้ทีเลยเอานิ้วชี้คลึงหัวนมของนุ่นเล่น เด็กสาวถึงกับถอนหายใจเฮือก แล้วก็บิดตัวไปมาเล็กน้อย แบบว่านอนอยู่เฉยๆไม่ได้น่ะครับ “อึดอัดแย่เลยใช่มั๊ย…” นุ่นรีบพยักหน้าทั้งๆที่ยังโดนผมเขี่ยหัวนมอยู่ เธอคงยังไม่รู้ว่าความเสียวที่เธอกำลังเผชิญอยู่นั้น มันต่างจากความอึดอัดยังไง ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้งานของผมง่ายเข้าไปอีก
“ครูอยากจะช่วยนุ่นนะ แต่นุ่นต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร เพราะวิธีนี้มันอันตราย(กับครู…เหอะๆๆ)” นุ่นทำหน้างงๆ “แต่ไม่ต้องห่วง ไม่เจ็บหรอก ครูเรียนวิธีนี้มา…โอเคนะ” ผมปลอบให้เธอสบายใจขึ้น นุ่นพยักหน้ากำลังจะเข้าทางผมอยู่แล้ว พวกเพื่อนๆของนุ่นก็เข้ามาถามอาการของเธอ ผมรีบดึงเสื้อของนุ่นมาปิดไว้ตามเดิม นุ่นลุกขึ้นนั่งแล้วก็ติดกระดุมเสื้อของเธออย่างเขินๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนให้เพื่อนเห็นว่าเธอเดินไหวดีแล้ว ในตอนนั้นผมล่ะหน้าซีดเลย กลัวว่านุ่นจะบอกเรื่องนี้กับเพื่อนๆของเธอ แต่จนแล้วจนรอดตลอดเวลาที่พวกเธอเดินทางไกลหลังจากนั้น ก็ไม่มีทีท่าว่านุ่นจะพูดเรื่องระหว่างผมกับเธอให้ใครฟังเลย นุ่นเองก็ดูจะสบายดีแล้ว ผมก็หมดห่วง จึงขอแยกตัวไปดูแลเจ้าพวกลูกเสือของผม

กลับมาถึงค่ายลูกเสือก็เวลาเที่ยงพอดีครับ กับข้าวมื้อเที่ยงเป็นผัดผักกับไก่ทอดใส่ถาดหลุม ลูกเสือหมู่ที่มาถึงก่อนก็มาเข้าแถวรับข้าวไปก่อน ลูกเสือของผมมาถึงเป็นกลุ่มแรกๆ ผมก็ตักข้าวแล้วไปนั่งกินกับพวกลูกเสือโรงเรียนของผม คุยกันเรื่องฐานเดินทางไกลวันนี้ไปซักพัก เนตรนารีหมู่ของนุ่นก็เดินมาครับ ต่างคนต่างก็ถือถาดอาหารมาคนละอัน เดินหาที่นั่งทานกันอยู่ พอดีว่าที่นั่งไม่ไกลจากที่ผมนั่งมากนักมีที่ว่างพอดี พวกเธอจึงไปนั่งที่นั่น ทีแรกผมก็ว่าจะทำเป็นไม่สนใจพวกเธอ แต่แล้วผมก็ทำใจนิ่งเฉยไม่ได้ครับ ลูกเสือในหมู่ของผมอยู่ๆก็หัวเราะขึ้นมาแล้วก็ชี้ให้เพื่อนๆในกลุ่มดูกัน ใหญ่ ผมถึงได้รู้ตัวทีหลังว่านุ่นเปิดหวอเป็นอาหารตาให้เจ้าพวกลูกเสือของผมซะ แล้ว สีเดิมเลยครับ…สีชมพู “นี่! ก้มหน้าก้มตากินข้าวไป ใครหันไปมองอีก ครูจะเอาไม้จิ้มตาพวกเธอ” ผมพูดขู่เด็กๆของผมจากใจจริงเลยครับ ไม้ก็ถือเตรียมไว้แล้วด้วย พอกำหราบเด็กๆของผมเสร็จผมก็หันไปทางนุ่น ชี้ให้เพื่อนๆของเธอรู้ว่านุ่นทำอะไรลงไป พอนุ่นรู้ตัวเข้าก็รีบหุบขาแล้วหันหน้าหนีผมทันที ทั้งลูกเสือของผมและเนตรนารีเพื่อนของนุ่นหัวเราะกันใหญ่ ผมห้ามความคิดพวกเธอไม่ได้ ได้แต่หันมาปรามเด็กๆของผมเท่านั้น ผมอบรมเจ้าพวกจอมทะลึ่งทั้งหลายไปยกใหญ่ จะว่าไปก็รู้สึกเหมือนใส่อารมณ์หึงหวงเข้าไปนิดๆด้วยนะ
ผมไม่ได้เจอกับพวกของนุ่นอีกเลยจนถึงเย็น เพราะช่วงบ่ายเป็นการอบรมกลุ่มย่อยและโรงเรียนของเราก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม เดียวกัน พอได้พบกันนุ่นก็จะรีบเดินหนีหน้าผมไปทันที ตามมาด้วยพลพรรคของนุ่นที่คอยกระเซ้าเย้าแหย่เธอ เห็นแบบนั้นผมก็สงสารนุ่นอยู่เหมือนกัน แต่อีกใจนึงก็โล่งอก เพราะจนป่านนี้ก็ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะมีใครรู้เรื่องที่ผมทำกับนุ่นเมื่อช่วง เช้าเลย ผมได้แต่กำชับตัวเองว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่ไม่เกิดเรื่องวุ่นวาย แต่ผมก็เตือนตัวเองแบบนั้นได้ไม่ถึงครึ่งวันครับ คืนวันนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นอีกจนได้…

ตกกลางคืนทางค่ายลูกเสือให้นักเรียนเข้านอนก่อนห้าทุ่ม ส่วนคุณครูที่เป็นผู้กำกับก็ต้องคอยดูแลความปลอยภัยให้กับนักเรียนทั้งคืน ก็ผลัดเปลี่ยนกันคนละ 3 ชั่วโมงน่ะครับ แล้วผมก็ได้ช่วงเที่ยงคืนถึงตีสาม ตำแหน่งที่ดูแลก็ระหว่างเต้นท์เนตรนารีกับลูกเสือพอดี (ก็ค่ายนี้มีทั้งชายหญิง เวลากางเต้นท์นอนใกล้ๆกันแบบนี้ มันก็ต้องมีผู้กำกับคอยดูแลหน่อย) ผมเตรียมเก้าอี้มานั่งตามตำแหน่งเหมือนวันแรก บรรยากาศตอนกลางคืนนั้นหนาวมาก ผมใส่ชุดค่อยข้างหนาเพื่อสู้กับความหนาวเย็นนั่น นั่งเฝ้าพรมแดนชายหญิงไปซักพักเต้นท์ของนุ่นก็มีปฏิกิริยา เหมือนกับมีคนลุกขึ้นมา ผมส่องไฟฉายไปทางนั้น ลุ้นว่าใครกำลังจะออกมา และแล้วก็เป็นนุ่นครับที่ออกมาจากเต้นท์ “ดึกแล้วนะ…นอนได้แล้ว” ผมบอกเธอเหมือนๆกับบอกลูกเสือคนอื่นๆที่ชอบตื่นขึ้นมากลางดึก แต่ในใจนั้นแสนจะดีใจที่มีโอกาสเจอกันเธออีกครั้ง “หนูจะไปเข้าห้องน้ำค่ะ” ดูเธอยังงัวเงียเพราะเพิ่งจะตื่นนอนมา พูดจาก็ยังฟังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ “แต่เพื่อนไม่ยอมตื่นไปกับหนูด้วย” ก็แน่ล่ะ…ใครอยากจะตื่นกลางดึกไปรอเพื่อนฉี่ทั้งๆที่ต้องเดินทางไกลทั้ง วันกันล่ะ และแถวนั้นก็ไม่มีผู้กำกับหญิงคนอื่นเลย(หลับหมดแล้ว) ผมจึงอาสาพานุ่นไปเองครับ เป็นไง…ดูเป็นสุภาพบุรุษดีใช่มั๊ยล่ะ
นุ่นใส่ชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีแดงๆ แบบที่ผู้หญิงชอบใส่ไปวิ่งจ๊อกกิ้งกันน่ะครับ ขาขาวๆของนุ่นแม้ในยามดึกที่ไม่ค่อยมีแสงไฟ มันก็ยังน่ามองอยู่ดี เธอค่อยๆเดินเข้ามาหาผม แต่ทันใดนั้นเอง เธอก็ไปสะดุดกับสายเต้นที่เขาขึงเอาไว้ แล้วถลาเข้ามาหาผม จังหวะมันกระทันหันมาก ผมก้มลงคว้าตัวเธอเอาไว้ได้ทัน ใบหน้าของนุ่นซบลงเหนือหน้าอกผม หน้าผากเธอก็ตรงกับปากผมพอดี บรรยากาศรอบๆข้างที่หนาวเย็นก็ดูจะเป็นใจ ผมประคองร่างของนุ่นที่ทั้งอ่อนนุ่มแล้วก็เบาหวิวสมกับชื่อของเธอ พร้อมกับฉวยโอกาสที่ไม่น่าจะมีบ่อยนัก จูบเธอที่หน้าผากจังๆไปหนึ่งที “เป็นอะไรรึเปล่า…” พร้อมกันนั้นก็เอ่ยปากถามเด็กสาว โดยมือของผมก็ยังคงประคองเธอเอาไว้ไม่ปล่อย “อ่ะ…เอ่อ… ขอโทษค่ะครู” นุ่นยังตกใจที่ตนเองถลามาล้มใส่ผม จนไม่รู้ว่าจริงๆแล้วผมโคตรจะดีใจเลย “ครูถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า…ไม่ได้ให้ขอโทษครูซะหน่อย” ผมไม่รับคำขอโทษของนุ่น พร้อมกับจูบหน้าผากเธอแถมไปอีกรอบ คราวนี้ปฏิกิริยาของนุ่นคือนิ่งไปเลยครับ เธอคงรู้แล้วว่าผมทำอะไรลงไปกับเธอ
ยิ่งได้ใกล้ชิดนุ่นแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกรักเธอขึ้นทุกที ผมแกล้งเอามือจับหน้าอกนุ่นพยุงเธอให้ลุกขึ้นยืน แล้วก็ทิ้งมือเอาไว้อย่างนั้น “ลุกไหวมั๊ย” นุ่นพยักหน้าตอบผมโดยไม่มีท่าทีจะปัดป้องหน้าอกของเธอเลย ไม่รู้ว่าเคยชินที่ถูกผมจับแล้วหรือว่าคิดอะไรอยู่กันแน่ “เดินตามครูมาละกัน เดี๋ยวสะดุดเต้นท์คนอื่นอีก” ผมจับมือนุ่นจูงเธอเดินผ่านแนวที่ลูกเสือกางเต้นท์กัน มือของนุ่นทั้งนิ่มทั้งอุ่นจนผมรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับมัน จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องน้ำที่แยกออกมาจากตัวค่าย ไกลออกไปประมาณ 100 เมตร ผมปล่อยให้นุ่นเข้าไปทำธุระส่วนตัวของเธอ คิดอะไรเพลินๆไปซักพักนุ่นก็ทำธุระเสร็จ เธอเดินออกมาพร้อมกับใบหน้าอายๆ ดูเหมือนเธอมีอะไรจะพูดกับผม แต่ก็ไม่พูด ผมจึงขอเสี่ยงเป็นฝ่ายถามก่อนเสียเอง
“ว่าไง…หัวนมแข็งขึ้นมาอีกรึไง…” ผมถามทีเล่นทีจริงไป เดาจากอาการของเธอ พอนุ่นได้ยินที่ผมถามเข้าเธอก็พนักหน้าเบาๆหนึ่งที แต่ฝ่ายผมพอได้เห็นเธอตอบแบบนั้นแล้วโคตรจะดีใจเลย โอกาสดีๆแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆนะเนี่ยะ “อยู่ๆมันก็แข็งขึ้นมาอีกอ่ะค่ะ” เด็กสาวก้มหน้าทำท่าเหมือนสำนึกผิดที่มารบกวนผม แต่ผมเดาว่าเธอคงจะอายมากกว่าที่มาขอให้ผมช่วยดูอาการของเธอ ซึ่งมันก็ดีแล้ว(ขืนไปขอให้ผู้กำกับของเธอช่วย ผมเองแหละจะซวยเอา) “งั้น…ตามครูมานี่” ผมพานุ่นหลบไปหลังห้องน้ำ แสงไฟส่องมาไม่ถึง เราแทบจะมองไม่เห็นหน้ากันและกัน แต่นั่นก็ทำให้คนภายนอกไม่เห็นเราเช่นกัน ผมให้นุ่นนั่งกับแคร่ไม้บริเวณนั้นผมนั่งข้างๆเธอ แล้วบอกเธอให้ถกเสื้อขึ้น นุ่นยอมทำตามอย่างไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ผมสอดมือเข้าไปคว้าหน้าอกของเธออีกครั้ง มันยังคงนุ่มนิ่มสมชื่อเจ้าของอยู่เหมือนเคย ผมไล่นิ้วไปจนกระทั่งโดนหัวนมของนุ่นที่รออยู่ มันแข็งขึ้นมาอย่างที่เธอบอกจริงๆครับ “อืม…สงสัยอาการจะกำเริบนะนุ่น” ผมพูดอย่างนั้นพร้อมกับจับเธอนั่งตักผม “ขอครูเช็คอาการให้แน่ใจหน่อยนะ” ด้วยท่านี้ทำให้ผมสามารถจับนมทั้งสองข้างของนุ่นได้สะดวก นิ้วชี้กับนิ้วโป้งสลับกับถูไถหัวนมของนุ่นไม่หยุด ให้เธอรู้สึกว่าผมกำลังเช็คอาการของเธออยู่ นุ่นแสดงอาการออกมาโดยมีลมหายใจแผ่วๆให้ผมได้ยิน “นอกจากตรงหัวนมแล้ว… มีตรงไหนอีกมั๊ยที่แข็งขึ้นมา” ท่าทางนุ่นจะยังไม่เคยรู้สึกตัว หรือเพราะไม่กล้าที่จะตอบก็ไม่รู้ เธอนิ่งไปครู่ใหญ่ไม่ยอมตอบคำถามผม “ถ้าไม่ตอบตามตรง ครูช่วยนุ่นไม่ได้นะ” ผมพยายามพูดชักจูงนุ่นให้ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเชิญชวน ไม่ใช่บังคับ “เอ่อ…มีค่ะครู…” ในที่สุดนุ่นก็ตอบ “ตรง…” นุ่นอ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมตอบตรงๆ ผมเองก็ไม่ได้บังคับจะให้เธอตอบให้ได้ เดาจากท่าทางก็พอจะรู้
“งั้นขอครูตรวจดูตรงนั้นด้วยได้มั๊ย” อีกครั้งที่ผมเชิญชวนเธอให้ยอมผม นุ่นนิ่งไปอีกครั้งและผมก็ถือว่าท่าทีนั้นเป็นการตกลง ผมยอมให้มือขวาข้างที่ถนัดละออกจากหน้าอกนุ่นลงไปสู่เป้าหมายที่อยู่ต่ำกว่า ไม่เสียเวลามากนักในที่สุดมือผมก็มุดเข้าไปในกางเกงในของนุ่น สอดนิ้วกลางเข้าไปหาปุ่มสยิวที่เธอหวงแหน สะกิดมันเพียงเล็กน้อย นุ่นก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมาพยายามจะส่ายเอวหนีสัมผัสจากผม “อ่อ…ครูเจอแล้ว ไม่ต้องกลัวนะนุ่น ครูจะทำให้นุ่นสบายขึ้นเอง” ว่าแล้วผมก็ดันนิ้วกลางลงลึกไปถึงรูสยิวของนุ่น สัมผัสบริเวณนั้นเจิ่งนองไปหมด ทีแรกผมคิดว่าเป็นฉี่ของเธอเพราะเพิ่งเข้าห้องน้ำมา แต่พอแตะดีๆก็รู้สึกว่ามันเหนียวๆ นี่แสดงว่าร่างกายของนุ่นมีทุกอย่างที่เพียบพร้อมสำหรับการเจริญพันธุ์แล้ว สินะ
ข่าวดีนี้ทำเอาผมหน้ามืดตามัวไปหมด มาถึงขั้นนี้แล้วจะไม่ลุยให้ถึงที่สุดก็น่าเสียดายแย่ “ถอดกางเกงออกซิคนเก่ง ขอครูดูให้ชัดๆหน่อย” ท่าทางนุ่นจะเริ่มเคลิบเลิ้มไปกับผมด้วยเหมือนกัน เธอถอดทั้งกางเกงและกางเกงในออกอย่างว่าง่าย วางกองทิ้งเอาไว้กับพื้น ผมสั่งให้นุ่นถ่างขาออกเธอก็ทำ ผมละมือซ้ายไปคว้าไฟฉายมาเปิดส่องร่องรักของนุ่น แสงจากไฟฉายสะท้อนกลีบสวาทของเธอเป็นสีชมพูดูงดงามมาก รูของเธอยังดูใหม่ไม่เคยมีใครได้ล่วงล้ำมาก่อนแน่นอน และผมจะเป็นคนแรกของมัน แต่ผมจะไม่บอกความจริงทั้งหมดหรอก “อืม…ดีนะที่นุ่นมาให้ครูดูตอนนี้น่ะ ถ้าช้ากว่านี้อาจจะไม่ทันแล้วก็ได้” ติ่งเสียวน้อยๆที่ซ่อนอยู่ถูกผมเขี่ยไปมาตลอดไม่ปล่อยให้พัก นุ่นขยับตัวไปมาบนตักของผมพยายามจะระบายความเสียวด้วยการกำชายเสื้อของเธอ “นุ่นจะยอมให้ครูรักษารึเปล่า…” เด็กสาวพยักหน้า “แน่ใจนะว่านุ่นจะไม่บอกเรื่องที่ครูรักษานุ่นให้ใครฟัง” นุ่นพยักหน้าอีกครั้งพร้อมกับกลืนน้ำลายเพราะความเสียว “วิธีรักษามีหนทางเดียวคือนุ่นต้องยอมให้ครูเย็ดนะ” คราวนี้นุ่นนิ่งเงียบไปไม่พยักหน้าตอบเหมือนเคยครับ แสดงว่าเธอยังพอมีสติอยู่ และมันก็ทำให้ผมเสียวมาก กลัวว่าเธอจะไม่เอาด้วย “เย็ดนี่… หมายถึงเอากันใช่มั๊ยคะ” ผมพยักหน้าตอบนุ่น แน่นอนว่านิ้วผมก็ยังวนเวียนอยู่ที่ติ่งสยิวของนุ่นอยู่ “การเย็ดกันจะทำให้นุ่นรู้สึกสบาย นุ่นจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนที่เป็นอยู่ตอนนี้ไง” ผมให้คำอธิบายเสริม ดูท่าทางเธอจะทรมานกับความเสียวที่ผมสร้างให้เธอมากทีเดียว เพราะในไม่ช้านุ่นก็ตอบตกลงรับการ(เย็ด)รักษาจากผม
ผมจับนุ่นพลิกไปนอนหงายอยู่บนแคร่ ถอดกางเกงของตัวเองออก ของผมมันไม่ใหญ่มากหรอกครับ ขนาดขยายเต็มที่แล้วก็ยังใหญ่กว่านิ้วโป้งไม่มากนัก ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีกับตัวนุ่นมากกว่า “หลับตาซะ ทำตัวตามสบายนะ ถ้าเจ็บจนทนไม่ไหวก็บอกครูเบาๆนะ” ผมกำชับเด็กสาว ไม่อยากให้เธอร้องลั่นค่ายให้ใครมาเห็นเข้า นุ่นพยักหน้าตอบแล้วก็หลับตาตามคำสั่ง ผมจึงจับขาเธอแยกออก แหวกกลีบเสียวของเธอ แล้วค่อยๆส่งเจ้าดิ๊กของผมมุดเข้าร่องสยิวของนุ่น น้ำเสียวของเธอช่วยให้งานของผมง่ายขึ้น เจ้าดิ๊กค่อยๆมุดเข้าไปเรื่อยๆ โดยที่นุ่นออกอาการเพียงเสียงครางในลำคอเท่านั้นเอง แต่สำหรับผมแล้วสัมผัสสุดสยิวนี้ยิ่งกว่าความฝันซะอีก ร่องเสียวของเธอตอดรัดเจ้าดิ๊กของผมอย่างแนบแน่น แม้จะอึดอัดแต่ก็ให้ความรู้สึกที่ดีจนไม่อยากจะทำอะไรอย่างอื่น ผมดันเข้าไปจนกระทั่งชนอะไรบางอย่างเข้า ทำเอานุ่นสะดุ้งขึ้นมาเลย “ตรงนี้จะเจ็บหน่อยนะ… ไหวมั๊ย” ผมเอ่ยถามความสมัครใจก่อนจะทำลายความบริสุทธิ์ของนุ่น เด็กสาวลืมตาขึ้นมามองผม ส่งสายตาประมาณว่าไม่อยากให้ผมทำเธอเจ็บ แต่ตอนนี้มันหยุดไม่ได้แล้วครับ เจ็บก็ต้องเจ็บล่ะนะนุ่นเอ๋ย…
“อืออออออ!” ผมดันเจ้าดิ๊กทะลุผ่านสิ่งที่กางกั้นความสุขของผมขาดสะบั้นไม่มีชิ้นดี นุ่นพยายามกลั้นใจไม่ร้องออกมาดังๆ ซึ่งผมต้องก็ยอมรับความอดทนของเธอเป็นอย่างมาก ใจจริงนุ่นคงอยากจะร้องออกมาดังๆใจจะขาด น้ำตาเธอคลอเบ้าตา “ครูขาาาา…” น้ำเสียงสั่นเครือจนผมเองก็พลอยรู้สึกสงสารเธอไปด้วย “ไม่ต้องกลัวนะนุ่น เวลาฉีดยาก็ต้องเจ็บแบบนี้แหละ เจ็บแค่ตอนนี้เท่านั้น หลังจากนี้จะสบายแล้ว” ผมปลอบนุ่น ลูบหัวเบาๆ แล้วก็หอมแก้มเธอ ปล่อยเจ้าดิ๊กให้พักอยู่ในร่องสยิวของนุ่นชั่วคราว จนกระทั่งนุ่นหายจากอาการตกใจแล้ว แน่นนอนว่าเธอยังเจ็บอยู่ “ต่อนะ…” นุ่นใจแข็งมาก เธอพยักหน้าตอบผมทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่ ผมจึงเริ่มซอยเจ้าดิ๊กของผมใส่ร่องสยิวของนุ่นอย่างไม่เร่งร้อน “เก่งมาก…นุ่น เป็นเนตรนารีต้องอดทนให้ได้แบบนี้นะ” ผมกล่าวชมเธอต่างๆนานา อยากให้นุ่นรู้สึกว่าการที่เธอยอมให้ผมเย็ดมันเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง ไม่รู้ว่านุ่นฟังอยู่รึเปล่า เพราะเธอเอาแต่หลับตาปี๋ ส่ายหัวไปมาไม่หยุด
เมื่อเห็นว่านุ่นไม่ร้องเสียงดังแน่ๆแล้ว ผมจึงเริ่มซอยเจ้าดิ๊กให้เร็วขึ้น ปากก็ระดมไซ้ซอกคอของนุ่น สูดดมกลิ่นเหงื่อของเธอที่ไหลซึมออกมา กลิ่นของนุ่นบวกกับเสียงครางของเธอยิ่งทำให้ผมมีอารมณ์ ผมจับขานุ่นยกขึ้นชี้ฟ้าทั้งสองข้างแล้วก็ซอยต่อ ดูเหมือนเสียงร้องบ่นว่าเจ็บของเธอจะหายไปแล้ว เหลือแต่เสียงครางเพราะความเสียวเท่านั้น “เป็นไงบ้างนุ่น… ยังอึดอัดอยู่มั๊ย” นุ่นพยักหน้าปะหลกๆ ดูสีหน้าเธอเหมือนจะอึดอัดซะยิ่งกว่าตอนแรกซะอีก “งั้นครูคงต้องซอยให้เร็วขึ้นอีกนะ” นุ่นพยักหน้ายอมรับชะตากรรมของเธอ ผมก็ไม่รอช้าซอยเจ้าดิ๊กสุดกำลังใส่ร่องสยิวของนุ่น ภายในรูของเธอนั้นขมิบตอดรัดเจ้าดิ๊กของผมอย่างแนบแน่น ดูท่าทางมันเองก็ไม่อยากปล่อยให้เจ้าดิ๊กของผมหลุดไปเหมือนกัน “อาาาา…ใกล้แล้วล่ะนุ่น ใกล้จะเสร็จแล้ว” เด็กสาวป.6ที่ไร้ประสบการณ์ ตอนนี้นอนดิ้นไปมาเพราะความเสียวที่ผมมอบให้ เธอทำหน้างอเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ก็ยังใจแข็งอดทนมาจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย “อืออออ…อือออออ…อือออออ” สิ้นเสียงอือที่สามของนุ่น ผมก็ถึงสวรรค์ ดูเหมือนนุ่นก็คงจะเสร็จพร้อมผมด้วย เพราะตัวเธอกระตุกร่องเสียวก็ขมิบเป็นระยะๆ เจ้าดิ๊กของผมพ่นน้ำใส่นุ่นอย่างไม่มียั้ง ไม่รู้ว่าเยอะแค่ไหน แต่รู้ว่าผมมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย ร่องเสียวของนุ่นจะอยู่ในความทรงจำของผมไปอีกนานแสนนานแน่นอน
ผมคาเจ้าดิ๊กเอาไว้พักหนึ่งให้นุ่นได้นอนพัก ก่อนจะค่อยๆถอนมันออกมาเบาๆ แล้วเก็บเข้ากางเกงของผม นุ่นค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นมาโดยมีผมโอบเธอเอาไว้จากด้านหลัง “เป็นยังไง สบายขึ้นรึยัง” ดูนุ่นยังคงงงๆอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ “ครูรักษาให้นุ่นเสร็จแล้วนะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว” ผมบอกไปอย่างนั้น นุ่นก็ยกมือไหว้ขอบคุณผม โอ้โฮ…มันเป็นภาพที่ประทับใจผมมากเลยครับ ลองคิดดูสิ ผมเย็ดระบายความใคร่ใส่นุ่น เสร็จงานแล้วเธอก็ยกมือไหว้ขอบคุณที่ผมเย็ดเธอ “มันยังไม่หายขาดหรอกนะนุ่น ถ้ารู้สึกอยากให้ครูเย็ดอีกก็มาหาครูได้นะ…ทุกเมื่อเลย” ผมลูบหัวเธอ ให้กำลังใจเธอแล้วก็ช่วยเธอแต่งตัว จากนั้นเราสองคนก็เดินจูงมือกันไปที่เต้นของนุ่น ระหว่างทางเราคุยกันหลายต่อหลายเรื่อง ผมกำชับเธอไม่ให้บอกเรื่องที่ผมรักษาเธอให้ใครฟัง ดูนุ่นเองก็คงไม่อยากจะเล่าให้ใครรู้เหมือนกัน ผมจึงสบายใจขึ้น ก่อนนุ่นจะมุดเข้าเต้นของเธอไป ผมหอมแก้มเธอหนึ่งทีบอกว่าราตรีสวัสดิ์ เวลานั้นเกือบจะตีสามอยู่แล้ว นุ่นส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะรูดซิบปิดเต้นของเธอแล้วเข้านอน ส่วนผม..หมดเวลาเวรของผมแล้ว รู้สึกเพลียมากจึงแยกไปนอนเช่นเดียวกัน

ปล่อยครูไปเถอะนะ…นักเรียนเกเร

mio-kuroki-13

ดิฉันเพิ่งมีอายุครบ 25 ปี ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ มีครอบครัวที่อบอุ่นพอสมควรตามสภาพของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด ดิฉันแต่งงานอยู่กินกับสามีมาได้ 2 ปีแล้ว มีลูก 1 คน อายุ ขวบกว่าๆ แกเป็นเด็กที่น่ารักมาก สามีของดิฉันก็เป็นคนดีมากเช่นกัน เขามีอาชีพเป็นข้าราชการครูเช่นเดียวกับดิฉัน เราได้รู้จักกันตอนที่ดิฉันเพิ่งได้รับการบรรจุครูใหม่ๆ ที่โรงเรียนระดับมัธยมแห่งหนึ่งในตัวอำเภอ เขาสอนวิชาพละศึกษา ส่วนดิฉันได้รับบรรจุตำแหน่งครูวิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมต้น ที่นี่ครูค่อนข้างขาดแคลนครูคนหนึ่งต้องสอนหลายคาบมาก สอนทั้งวันทั้งแต่เช้ายันเย็น บางวันมีสอนถึง 7 คาบก็มี
ดิฉันโตอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่คุณแม่เป็นคนพื้นเพจังหวัดปราจีนบุรี ก็เลยคิดอยากจะมาทำงานที่ใกล้บ้านคุณแม่ด้วยเวลาท่านเหงาหรือเจ็บป่วย จึงเลือกมาทำงานเป็นอยู่อยู่ที่จังหวัดนี้ แม้ว่าจะอยู่คนละอำเภอก็ตาม ดิฉันพักอยู่ในบ้านพักครูของโรงเรียน ซึ่งอยู่หลังในสุดเนื่องจากเป็นครูใหม่ ปกติจะมีเพื่อนครูพักอยู่ด้วยกัน 3 คน
ดิฉันเป็นคนหน้าตาดีพอสมควร ผิวขาว สูงประมาณ 160 ซ.ม. ไว้ผมยาวรวบแบบสบายๆ ชอบแต่งกายแบบสบายทะมัดทะแมง ตอนที่ดินฉันมาอยู่ใหม่ๆ เพื่อนครูด้วยกันยังถามเลยว่า “หน้าตาอย่างครู นิดนี่ไม่น่ามาเป็นครูบ้านนอกอย่างนี้เลยนะ…” ดิฉันก็ตอบว่า “ดิฉันชอบต่างจังหวัดอยู่แล้วอากาศดี สุขภาพจิตน่าจะดีด้วย…”
เพื่อนครูเขาก็เตือนอยู่บ้างเหมือนกันว่า “เด็กนักเรียนที่นี่น่ะ ไม่เหมือนกับเด็กนักเรียนที่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยสนใจเรียน ชอบหนีเที่ยว เดี๋ยวนี้ยิ่งมียาเสพติดมาระบาดต้องยิ่งระวังให้ดี เราจับมันไม่ค่อยได้หรอกเด็กพวกนี้มันหลบเก่ง แต่ก็จะมีแสบๆ อยู่ไม่กี่กลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กโต แล้วก็ชอบลองของครูใหม่ใหม่ด้วย…”
ดิฉันก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้วเหมือนกัน ว่าต้องเจอกับเหตุการณ์ทำนองนี้ ตอนที่คุยกับเพื่อนๆ แต่ก็คิดว่าไม่น่ามีปัญหา ปรับตัวให้เข้ากันสักพักก็จะอยู่ตัวได้เอง แต่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเองจะรุนแรงถึงขั้นนี้ ดิฉันไม่เคยบอกแม้แต่เพื่อนครูที่อยู่บ้านพักเดียวกัน หรือแม้กระทั่งสามีของดิฉันก็แค่เล่าว่าชอบโดนนักเรียนแกล้งแซวเฉยๆ
ช่วงประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ตอนนั้นดิฉันเพิ่งได้รับการบรรจุเข้าทำงานเป็นครูที่นี่ หลังจากจบใหม่ๆได้ไม่นาน ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ เรียนจบเร็ว แล้วก็ได้ทำงานเร็ว ช่วงแรกๆ ของการสอนก็ไม่ไม่อะไรมากเพราะดิฉันต้องปรับตัวกับการเรียนการสอนพอสมควรแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนหรือไปไหนเลย เดือนแรกของการทำงานดิฉันต้องคลุกตัวอยู่กับห้องเรียน เลิกเรียนก็อยู่ในห้องเตรียมการเรียนการสอนของวันถัดไป บางวันก็ถึงขนาดนอนหลับคาโต๊ะหนังสือเลยก็มี
ช่วงเดือนแรกของการสอนที่นี่ดิฉันจะอยู่ที่โรงเรียนตลอดไม่ได้กลับบ้าน เพราะกลัวจะเตรียมการเรียนการสอนไม่ทัน ส่วนเพื่อนครูคนอื่นที่เขาพักบ้านเดียวกับดิฉันพอวันศุกร์เย็นก็แยกย้ายกันกลับบ้านกัน ส่วนมากก็จะเหลือดิฉันอยู่เพียงคนเดียว
วันนั้นเป็นวันศุกร์ ย่างเข้าเดือนที่ 2 ของการเป็นครูที่นี่แล้วล่ะ ดิฉันก็ทำงานเป็นปกติเหมือนทุกวัน แต่ก็ดูจะเหนื่อยเป็นพิเศษอาจจะเป็นเพราะว่าเหนื่อยสะสมมาจากการที่ไม่ค่อยได้พักผ่อน พอกลับถึงบ้านก็เลยอาบน้ำอาบท่าให้สบายเนื้อสบายตัว แล้วก็เปลี่ยนชุดอยู่บ้านสบายๆ ใส่กระโปรงลำลองผ้าฝ้ายยาวประมาณเข่าได้ เสื้อก็เป็นเสื้อยืดโปโลธรรมดา
ปรากฏว่าพอแต่งตัวเสร็จกะว่าจะเข้าไปในตลาดตัวเมืองซื้อของตุนไว้เสียหน่อย กลับพลันนึกขึ้นได้ว่าลืมเอกสารการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ของชั้น ม.2 ไว้ที่ห้องพักครู และก็จำได้ว่าดิฉันเป็นคนสุดท้ายที่ออกมาจากห้องพักครูแล้วก็ล๊อกประตูเรียบร้อยแล้ว หากจะเปิดเอาเข้าไปก็ต้องไปเรียกให้ภารโรงมาเปิดให้ เวลาตอนนั้นก็ประมาณสัก เกือบๆ 6 โมงเย็นแล้วเห็นจะได้ ท้องฟ้าก็เริ่มโพล้เพล้แล้ว
ตอนนั้นก็รู้สึกกลัวอยู่เหมือนกันจึงเดินไปเรียกเพื่อนครูข้างบ้านให้ไปเป็นเพื่อน แต่ปรากฏว่าเขาไม่อยู่ นึกขึ้นได้ว่าเขาไปธุระในเมืองตั้งแต่บ่ายแล้ว ก็เลยตัดสินใจเดินไปที่ตึกเอง คิดว่าไม่น่ามีอะไรเพราะผู้คนก็กลับบ้านกันหมดแล้ว ห้องพักครูของดิฉันอยู่ชั้น 3 ชั้นบนสุดของตึกแต่ต้องเดินอ้อมไปเอากุญแจที่บ้านภารโรงซึ่งอยู่ถัดไปเกือบหลังในสุดของถนนในโรงเรียนซึ่งรกครึ้มไปด้วยต้นไม้ใหญ่
พอดิฉันเดินเลี้ยวพ้นมุมตึกผ่านกอดอกเข็มสีแดงสดก็ต้องสะดุงตกใจ เมื่อเห็นเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 3-4 คน คาดว่าน่าจะเป็นนักเรียนชั้น ม.6 นั่งซุ่มอยู่หลังกอต้นเข็ม เสียงหอบ แฮกๆ…แฮกๆ เหมือนไปทำอะไรมาจนเหนื่อย แล้วก็ถอดเสื้อเหงื่อเต็มตัว เห็นแต่ใส่กางเกงฟุตบอลอยู่ เข้าใจว่าคงเป็นนักกีฬาของโรงเรียน
เด็ก 2 คนในกลุ่มนี้มีตัวใหญ่มากตอนเขายืนขึ้นตัวของดิฉันยังได้แค่บ่าของเขาเอง อีก 2 คน ตัวใหญ่กว่าดิฉันเล็กน้อย กล้ามเนื้อที่เพิ่งผ่านการออกแรงมาเด่นนูนเป็นมัดๆ พวกเขาทำให้ดิฉันตกใจมาก และเขาก็คงตกใจเหมือนกันที่บังเอิญพบดิฉันที่นี่
“พวกเธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้…” ดิฉันรีบถามด้วยอาการที่ยังคงตกใจอยู่
“เออ..ครับเออ..มาหลบ อู้ซ้อมวิ่งนะครับ…” เสียงเจ้าคนตัวใหญ่สุดในกลุ่มตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเหนื่อยหอบอยู่
“คืออย่างนี้ครับครู ผมมาเข้าเก็บตัวเตรียมแข่งฟุตบอลโรงเรียนของจังหวัดน่ะครับ พอดีจริงๆ เขาเริ่มเก็บตัวกันวันพรุ่งนี้ แต่พวกผมบ้านอยู่ไกลเลยขี้เกียจกลับ ก็เลยขออาจารย์สมมาตร แกค้างก่อน 1 วัน…” อีกคนหนึ่งพูดขึ้น
“แล้วครูจะไปไหนหรือครับ…” คนตัวใหญ่สุดถามขึ้นอีก
“จะไปขอกุญแจภารโรง เปิดห้องพักครูหน่อย พอดีลืมเอกสารการสอนไว้…” ดิฉันตอบไปแล้วก็เดินจากไปยังบ้านพักภารโรง
เมื่อดิฉันไปถึงบ้านพักภารโรง ก็ต้องตกใจอีกครั้งหนึ่ง เมื่อเห็นบ้านปิดอยู่ แต่ที่หน้าบ้านมีรองเท้าถอดวางอยู่หลายคู่ ดิฉันจึงค่อยๆ เดินขึ้นไปบนระเบียงหน้าบ้านเพราะกลัวจะเสียมารยาท พอมองไปที่เก้าอี้หน้าระเบียงเห็นหนังสือ 2-3 เล่มวางอยู่ หน้าปกหนังสือขึ้นหัวว่า ลับเฉพาะเปิดบริสุทธ์แดนอาทิตย์อุทัย
ตอนนั้นดิฉันนึกอย่างไรก็ไม่ทราบแทนที่จะรีบทำเรื่องให้เสร็จเรียบร้อย กลับเดินเข้าไปหยิบหนังสือนั้นมาเปิดพลิกดูด้านใน ดิฉันถึงกลับตะลึงเลย เพราะข้างในมีแต่รูปโป๊ ที่มีแต่การเสพสังวาสกันหลายท่าหลายทาง บางทีก็คู่เดียวบางทีก็หลายคู่ แถมบางคู่เห็นฝ่ายผู้ชายเอาท่อนเนื้อของตัวเองเข้าไปยัดตรงรูก้นของผู้หญิง มีภาพน้ำกามของผู้ชายพวยพุ่งออกมาจากลำกล้องขนาดมหึมาพุ่งใส่หน้าฝ่ายหญิง ตอนนั้นดิฉันฉันเกิดความรู้สึกเจ็บเสียวแปล๊บในท้องน้อยขึ้นมาทันที ดิฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร หรือว่านี่ที่ตำราหนังสือเขาเรียกกันว่าความต้องการทางเพศ
ดิฉันรีบสลัดความคิดเหล่านี้ออกไปในบัดดล แล้วก็รีบวางหนังสือเล่มดังกล่าวลงไว้ที่เดิม แล้วก็กะว่าจะเดินไปเคาะประตูเรียก แค่ยกมือขึ้นจะเคาะประตูพลันก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้หญิงร้องครวญครางเบาๆ ทำให้มือดิฉันต้องหยุดชะงักลงกลางคัน แล้วต้องตั้งใจฟังเสียงนั้นอีกทีว่าหูฝาดไปหรือเปล่า
“ฮือ…ฮื่อ…อูย…พี่เชิดฉันจะไม่ไหวแล้ว ซอยอีกนิดพี่ ควยพี่กระทุ้งลึกดีจริงๆ”
ดิฉันตั้งใจฟังจับสำเนียงนี้ได้ชัดเจนเลย มือไม้ตกวูบ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นึกขึ้นใจเกิดอะไรขึ้นนี่ เขาทำอะไร ทำไมฉันถึงได้รู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมา รู้สึกตึงบริเวณหน้าขาของดิฉัน ดิฉันตกใจมาก ถอยหลังออกมาโดยอัตโนมัติ ขณะนั้นเองข้อศอกของดิฉันก็ไปถูกกระถางต้นไม้ที่ตั้งตรงหัวเสาบันใดระเบียง หล่นลงมาแตก เพล๊ง… หัวใจของดิฉันตกวูบจนแทบหยุดเต้น
“ใครวะ…บังอาจมารบกวนความสุขของกู…” เสียงของนายเชิดภารโรงตะโกนออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด พร้อมกับได้ยินเสียงโครมๆ เหมือนลุกลี้ลุกลนทำอะไรสักอย่าง
“เดียวเถอะมึง…กูจะล่อให้น่วมเลย…” เสียงนายเชิงยังโหวกเหวกอยู่ข้างใน
แต่เสียงแค่นี้ก็สามารถตรึงเท้าทั้งสองข้างของดิฉันให้อยู่กับที่ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้เลย เพราะฉันไม่เคยเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต
แอ๊ด… เสียงประตูเปิดออกมาพร้อมกับร่างอยู่สูงใหญ่ของนายเชิดยืนตระหง่านอยู่ พอเขาเห็นดิฉันก็แสดงสีหน้าตกใจ หดตัวงอเล็กๆ อยู่ นุ่งผ้าคะม้าผืนเดียว เหมือนมีอะไรตุงๆ อยู่ในผ้าขาวม้า กลับเป็นดิฉันเองที่ออกอาการรู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก หน้าแดงตึง หูอื้อไปหมด ทำอะไรไม่ถูกเลย
“เอ้า…อาจารย์แพรพรรณ นั่นเองมาทำอะไรที่นี่ครับ…” นายเชิดพูดออกสำเนียงดุๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความละอาย
“คือ…คือ…เออ…คือ…ฉะ…ฉะ…ฉันจะมาขอยืมกุญแจ…หะ…ห้องพักครูไปเปิดหยิบเอาเอกสารเตรียมการสอนหน่อยจ๊ะ…” ดิฉันตอบนายเชิดไปด้วยอาการประม่าไปหมด
“ไม่เป็นไรครับอาจารย์…อาจารย์ไปรอข้างบนได้เลย เดี๋ยวผมไปเปิดให้ครับ…” นายเชิดบอกด้วยความเกรงใจ
“เอ่อ…ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ…ฉันไปเปิดเองได้ เอาของแป๊ปเดียวล่ะเดี๋ยวมาคืนให้ นายเชิดติดธุระอยู่ไม่ใช่หรือ…” พูดจบดิฉันก็นึกขึ้นได้ว่า คิดผิดที่พูดคำนั้นออกไป พอเงยหน้าสบตากับน้าเชิดเห็นเขายิ้มๆ รู้เย็นวาบขึ้นมาทั้งตัวเลย
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปหยิบมาให้…” น้าเชิดหันหลังเปิดประตูเข้าไปข้างห้อง แล้วก็เปิดอ้าไว้อย่างนั้นสายตาของดิฉันไม่สามารถหลบเลี่ยงทัน มองเข้าไปเห็นเด็กสาวรุ่นคนหนึ่งนอนซุกตัวเหมือนหลับอยู่ใต้ผ้าห่ม หันหลังให้ปากประตู ตรงพื้นมีเสื้อผ้าของทั้งเด็กคนนั้นแล้วก็ของน้าเชิงเหวี่ยงเกลื่อกราดอยู่ เหมือนพึ่งผ่านการต่อสู้กันมาอย่างดุเดือดเลือดพล่าน ดิฉันอายจนต้องก้มหน้าไว้ตลอดเวลา จนกระทั่งน้าเชิดเดินอาดๆ ส่งกุญแจให้ พร้อมกับเสียงหัวเราะ ฮึ…ฮึ…อยู่ในลำคอ
“เรียบร้อยแล้วครับอาจารย์แพรพรรณ ถ้าอาจารย์มาไม่เจอผมก็แขวนไว้บนตะปูข้างประตูนี้ก็ได้” พูดจบนายน้าเชิดก็เดินลงบันไดลิ่วไปทางหลังบ้าน แต่ไม่ยอดปิดประตูลงเหมือนจงใจให้ดิฉันเห็นได้เต็มที่ ส่วนดิฉันมึนงงกับเหตุการณ์นี้ไปหมด พอคว้ากุญแจได้ก็รีบเดินลิ่วไปยังตึกอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันได้สังเกตว่าเด็กนักเรียน 3-4 คนดังกล่าวยังยืนอยู่ตรงกอต้นเข็มหรือไม่
ดิฉันต้องผ่านด่านลูกกรงบานเลื่อนชั้นที่ 1 ขึ้นไปแล้วเดินขึ้นไปชั้น 3 ห้องพักครูอยู่สุดระเบียงตึกพอดี กว่าจะขึ้นมาถึงห้องพักครูบรรยากาศโดยรอบตัวก็มืดสลัวแล้ว ดิฉันรีบเปิดประตูเข้าไปเปิดไฟแล้วก็หยิบเอกสารที่ต้องการได้เรียบร้อยแล้วก็รีบปิดไฟปิดประตูค่อยๆ เดินมายังบันไดทางลง รู้สึกผ่อนคลายไปมากโขแล้วกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อดถึงภาพของน้าเชิดกับเด็กสาวคนนั้นไม่ได้ ยังดีหน่อยที่ว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนชายล้วนเลยไม่น่าจะใช่เด็กในโรงเรียน ดิฉันเหลือบไปดูบรรยายกาศไกลๆ ออกไปเห็นแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้าช่างสวยเหลือเกิน
ดิฉันปล่อยความคิดล่องล่อยเรื่อยเปื่อยมาจนกระทั่งเดินมาบันไดชั้นที่ 2 ซึ่งอยู่ในช่วงลับตาคนพอดี ทันใดนั้นเองก็มีมือสาบๆ ยื่นมาจับก้นของดิฉันทางด้านหลัง และอีกมือเหมือนจะจับมาที่ขอบกระโปรงและกระตุกขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ ดิฉันตกใจมาก หันควับไปดู เห็นผู้ชายสองคน อยู่ที่ด้านหลังใส่หมวกไอ้โม่งทั้งคู่ กลิ่นสาบเหงื่อฉุนแตะจมูกจนเวียนหัว จากนั้นเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นรวดเร็วมากจนดิฉันไม่ทันได้ตั้งตัวเลย
“คุณครูจะรีบไปไหนครับ…ทำไมถึงได้มาคนเดียวล่ะครับ…กลิ่นตัวของครูที่เพิ่งอาบเสร็จใหม่ๆ หอมจังครับ…หอมจนพวกผมทนกันไม่ไหวเลยครับ…” เสียงแหบๆ พ่นออกมาจากปากของไอ้โม่งที่ตัวใหญ่ ทำให้ดิฉันรู้ได้ในทันทีว่า เป็นเด็กนักเรียนที่เจอตรงกอต้นเข็มนั่นเอง แต่ตอนนี้มีแค่สองคน
“นี่เธอ…” ไม่ทันที่จะได้พูดอะไร สองคนนั่นก็โถมเข้าตัวเข้ามาหาดิฉัน คนตัวโตอ้อมมาด้านหลังเอามือขวาที่มีผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดหน้าก็ไม่ทราบ มาปิดปากของดิฉันไว้ไม่ให้ส่งเสียงได้ อีกมือหนึ่งก็อ้อมมารัดเอวของฉันไว้แน่น แต่ดิฉันก็ยังคงดิ้นสู้ต่อไปจนสุดฤทธิ์
“ได้ผล…” ดิฉันนึกในใจ พยามดิ้นต่อไปเพราะคิดว่าต้องรอดแน่นอน แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น ไอ้เด็กอีกคนหนึ่งซึ่งรู้สึกว่าน่าจะเป็นหัวหน้า ที่คอยยืนคุมเชิงแต่แรก ส่งเสียงเรียกเด็กนักเรียนที่แอบรมคุมเชิงอยู่ชั้นล่างขึ้นมาสมทบ
“เฮ้ย…ไอ้แก้ว ไอ้บัติ…มึงสองคนจับแขนครูคนสวยคนละข้างยึดกับกำแพงไว้…” ไอ้คนตัวโตหัวหน้าออกคำสั่งอย่างเฉียบขาด ขณะที่ไอ้คนตัวใหญ่สุดยังคงรัดแน่นอยู่ด้านหลัง
ดิฉันทำอะไรไม่ถูกเลยขณะนั้น ร้องไม่ออก มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลออกมา ดิฉันดิ้นไปสักพักก็เริ่มอ่อนแรง ไอ้ตัวใหญ่ได้โอกาสก็เลยหมุนตัวออกมาแล้วใช้ผ้าจับยัดใส่ปากดิฉันแทน อีกสองคนยกแขนดิฉันขึ้นไปขึงพรืดกับผนัง ไอ้คนตัวโตเปลี่ยนมาจับขาของดิฉันแทนแล้วตรึงชิดไว้กับพื้น แรงข้อมือของมันยังกับคีมเหล็ก กดข้อเท้าของดิฉันไว้จนไม่สามารถมีแรงยกขึ้นได้ ดิฉันพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ก็มีแค่เพียงเสียงครืดๆ ในลำคอเท่านั้น ไอ้หัวหน้ามันก็ตรงมาที่ตัวดิฉัน แล้วก็พูดกับอีกสามคนนั่นว่า
“ให้กูเบิกร่องครูคนสวยคนนี้ก่อนนะ…แล้วพวกมึงค่อยตาม…” ว่าแล้วมันก็นั่งยองๆ ลงให้หน้าของมันอยู่ตรงเอวพอดี
มันใช้มือของมันทั้งสองข้างรูดขึ้นไปตามเรียวขาวถลกกระโปรงขึ้นมาเหนือเอว เห็นเรียวขาขาวผ่องเป็นยองใยของดิฉัน ใบหน้าของมันลอยอยู่ตรงบริเวณหน้าท้องน้อยพอดี ดวงตามันเหลือกจับจ้องอยู่แต่ตรงเนินโคกที่โหนกนูน เห็นขนรำไรเป็นกระเปาะน้อยที่เป็นของหวงที่สุดของดิฉันซึ่งเพิ่งก้าวผ่านเข้ามาเป็นสาวเต็มตัวได้ไม่นานนี้เอง มันเหลือกตาจองมองด้วยสายตาที่หื่นกระหาย ผ่านกางเกงในสีชมพูขลิบขอบด้วยลูกไม้สีส้มเลาะตามง่ามขาทั้งสองข้าง เพียงแค่ปกปิดได้เนินเนื้ออิ่มอูมได้เท่านั้น ไม่สามารถปิดกั้นเส้นขนบางที่โผล่แพลมออกมาด้านข้าง
“โอ้…โฮ…เฮ้ย…กูว่าแล้ว…อาจารย์คนสวยนี้นอกจาก หน้าตาสวย หุ่นดีแล้ว โคกหียังสวยด้วยว่ะ…” มันพูดพลางก็เอามือดึงไอ้โม่งออกไป เผยให้เห็นใบหน้าคมคายแต่ดูเหี้ยมเกียมของมันอย่างไม่กลัวความผิด พร้อมกับเอามือของมันลูบไล้เล่นแถวบริเวณโคกสามเหลี่ยม ดิฉันรู้สึกเสียวขึ้นมาถึงท้องน้อยอีกครั้งเหมือนกับตอนที่แอบดูหนังสือโป๊ที่บ้านน้าเชิดภารโรง
“เป็นยังไงบ้างครับ…ไปแอบดูน้าเชิดมันเย็ดนังส้มโอในบ้าน ผมว่าอาจารย์คงอยากโดนบ้างล่ะสิ…” มันเงยหน้าขึ้นมาพูดกับดิฉัน ดิฉันถึงกับหน้าแดงซ่านอีกครั้งเมื่อถูกคนอื่นจับความรู้สึกได้
“อาจารย์คนสวยครับ…วันนี้ผมชวนอาจารย์มาเรียนวิชาเพศศึกษาด้วยกัน คุยกันเรื่องหี เรื่องควย กับทฤษฏีการเย็ดภาคปฏิบัติกันนะครับ…ผมรับรอง อาจารย์คนสวยจะต้องติดใจเรียกใช้บริการพวกผมอีกแน่…” พูดจบมันก็พยายามสอดมือเข้าไปบริเวณโคกหีของดิฉัน
ตอนนี้ทุกคนพร้อมกันดึงไอ้โม่งออกกันหมดย่างรู้ใจกัน ไอ้คนที่จับข้อเท้าไว้ก็เปลี่ยนมาสอดแขนอันกำยำของมันเข้ามาใต้ข้อพับเข่าแล้วยืนตัวขึ้น ทำให้ขาของดิฉันยกลอยแบะออกจากกัน อีกข้างหนึ่งก็อยู่ในท่าเขย่งปลายเท้าข้างเดียวทำให้ไม่มีพื้นที่พอสำหรับการทรงยืนตัว ในขณะที่อีกสองคนที่จับแขนของดิฉันขึงพืดอยู่ก็เปลี่ยนเป็นจับดึงแขนเหยียดพาดอ้อมคอของมัน อีกมือหนึ่งก็สอดมารัดเอวเอาไว้ ด้วยท่าหิ้วปีกแบบนี้ทำให้ดิฉันไม่อยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองหรือขัดขืนใดๆได้เลย
ไอ้นักเรียนคนหัวหน้ามันยืนขึ้น รวบผมยาวสลวยของดิฉันที่ปล่อยไว้หลังจากอาบน้ำเสร็จเสยขึ้นไปข้างหลัง พร้อมกับเงยหน้าของดิฉันขึ้นด้วย ตอนนี้หน้าของมันกับดิฉันอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
“ผมของอาจารย์สวยจัง หอมด้วยเพิ่งสระผมมาละสิ ใช้ยาสระผมยี่ห้ออะไรครับ วันหลังผมจะได้ใช้บ้าง…” มันพูดเสร็จก็ก้มลงเอาปากสากๆ ของมันมาระดมจูบที่ซอกคอ ไซร้ขึ้นมาที่ซอกหูของดิฉัน รู้สึกกลัวก็กลัวเสียวก็เสียว แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้พยายามดิ้นขัดขึ้นจนถึงที่สุด
“ตอนนี้อาจารย์ยังไม่ต้องรีบดิ้นหลอกครับ เดี๋ยวอีกหน่อยก็จะดิ้นไม่หยุดเอง…” เสียงไอ้สองตัวที่หิ้วปีกดิฉันอยู่กระซิบอยู่ข้างหู แล้วก็หัวเราะ หึ…หึ…แถมยังช่วยกัดระดมขบกัดเบาๆ แถวข้างหู จนดิฉันร้องเสียงหลงด้วยความเสียวอยู่ในลำคอ
ขณะที่ไอ้แก้วแก้วกับไอ้บัติมันสาละวนอยู่กับการไซร้ซอกคอกัดติ่งหูอยู่นั้น มือของไอ้หัวหน้าก็มาขย้ำที่บริเวณหน้าอกของดิฉัน มันทั้งบีบทั้งคลึงขึ้นลง ซ้ายขวา เนื้อผ้าที่มันเสียดสีกับหัวนม มันเสียวจนดิฉันต้องบิดตัวเร่าๆ ตามจังหวะบีบของมัน มันใช้ฝ่ามือถูหัวนมนอกเสื้ออยู่ได้สักพักยกทรงที่ทำหน้าที่ปิดหัวนมเอาไว้ก็ไหลลื่นลงมากองอยู่ที่ฐานนม ทำให้หัวนมที่เพิ่งถูกถูไปมาเมื่อสักครู่ มันแข็งเป็นไตดันขั้นเป็นรูปหัวนมอย่างชัดเจน
“ไอ้แก้ว ไอ้บัติ มึงดูสิหัวนมของอาจารย์ แม่งตั้งเด่แทงเสื้อออกมาเลย…” ไอ้หัวหน้ามันพูด แล้วก็ใช้ปากของมันก้มลงขบกัดหัวนมเบาบ้างแรงบ้าง สลับกับการดูด จนน้ำลายของมันเลอะเสื้อตรงหัวนมนั้น พอมัดกัดทีฉันก็ตรงแอ่นหน้าอกขึ้นไปรับมันทีเพราะความเสียวซ่านเริ่มเข้ามาครอบงำฉันแทนความอายไปหมดสิ้นแล้ว
“ดูท่าทางอาจารย์ จะเริ่มเงี่ยนแล้วใช่ไหมครับ…” ไอ้หัวหน้ามันเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าอก แล้วก็จองด้วยสายตายียวน จนดิฉันต้องหลบตาด้วยความเขินอาย เพราะไม่เชื่อว่าร่างกายที่อุตส่าห์ทนุถนอมมาถึง 22 ปี จะต้องมาถูกลูกศิษย์ในโรงเรียนของตัวเองมาเปิดบริสุทธิ์ในลักษณะเช่นนี้และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะยุติลงโดยเร็ว
“เอาอย่างนี้ดีกว่า…มองหน้าดูแววตาอย่างเดียวไม่มัน ฟังเสียงของครูบ้างดีกว่า แต่ผมบอกอย่างนะครับ อย่าแหกปากไป เพราะไม่งั้นอาจารย์คนสวยเจ็บตัวน่วมแน่…” ว่าแล้วมันก็เอามือดึงผ้าออกจากปากของดิฉัน พอมันดึงออกดิฉันก็หอบ แฮก…แฮก…เหมือนได้หายใจอย่างเติมปอดอีกครั้ง
“ขอร้องเถอะนะ…อย่าทำอย่างนี้กับครูเลยนะ…ขอร้องเถอะ…ครูจะไม่เอาเรื่องของเธอไปบอกใครหรอก ปล่อยครูไปเถอะนะ…” ดิฉันร้องอ้วนวอนด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากออกมาอีกครั้ง
“เชื่อผมเถอะครับอาจารย์ เดี๋ยวอาจารย์ก็จะเปลี่ยนคำขอร้องไปเองน่ะ…ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ…” ว่าแล้วมันก็เอามือของมันตะปบไปที่โคกนูนของดิฉัน แล้วก็เอานิ้วเกี่ยวขอบกางเกงในของดิฉันดึงให้ไปอยู่ข้างหนึ่งเท่านั้นแหละ โคกกะเปาะสงวนของดิฉันก็ต้องเผยออกมาแก่สายตาของไอ้หัวหน้ามันคนนั้น
ดิฉันยังถูกจับอยู่ในท่ายกขาข้างหนึ่งไว้กับอีกข้างยังเขย่งอยู่กับพื้น เมื่อมันอยู่ในท่านี้ทำให้ แคมของดิฉันต้องแตกผลิออกโดยปริยาย มันรู้สึกเย็นวาบเข้าไปถึงท้องน้อยเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันดิฉันก็รู้สึกว่าบริเวณตรงนั้นของดิฉันมันมีน้ำเมือกลื่นๆ ไหลเยิ้มอยู่แล้ว
“เห็นไหมครู อย่างนี้แล้วยังจะให้ผมหยุดมืออีกหรือ ดูท่าทางหีของอาจารย์นี่จะไม่เคยโดนควยใครเย็ดมาก่อนเลยใช่ไหมครับ…” มันพูดพลางเอานิ้วของมันเขี่ยขึ้นเขี่ยลง แล้วก็ชักเข้าชักออก
“เธออย่ามาพูดคำไม่สุภาพกับครูบาอาจารย์อย่างนี้นะ…” ดิฉันพูดออกไปอย่างโกรธเคืองตามประสาครูที่ได้ยินลูกศิษย์พูดวาจาไม่สุภาพต่อหน้า ไอ้หัวหน้ามันไม่พูดตอบ กลับเร่งแยงนิ้วของมันเข้าออกๆ จนมิดโคนนิ้วจากนิ้วกลางนิ้วเดียวก็เพิ่มเป็น 2 นิ้ว 3 นิ้วตามลำดับ ดิฉันโดนเข้าแบบนี้มันเสียวเข้าไปถึงข้างใน จนต้องคราง
“อูย…อูย…ซี๊ด…อยู…” อย่างไม่รู้ตัว ยิ่งมันเร่งซอยถี่เร็วขึ้น ก็ร้องเสียงดังขึ้น “อูย…อูย…ซี๊ด…อย่าแยง…ย่าแยง…ครูจะทนไม่ไหวแล้ว…” เมื่อมันได้ยินมันก็ยิ่งเร่งจนได้ยินเสียง สวบ…สวบ…บล็อก…สวบ เสียดสีระหว่างนิ้วกับแคมของดิฉันที่เมื่อถูกถอนออกก็จะปลิ้นตามออกมา จนต้องโยกตัวไปตามจังหวะของการแยง
“โอย…ไม่ไหวแล้ว…อย่าแยง…ไม่ไหวแล้ว…” ดิฉันรู้สึกว่าเหมือนเดินมาสุดทางแล้วเกร็งตัวสั่นระริก แล้วก็ปล่อยน้ำเมือกแฉะๆ ออกมาเลอะเทอะนิ้วของมัน จนกระทั่งมันหยุดมือ แล้วก็ชูนิ้ว 3 นิ้วของมันออกมาให้ดิฉันดู แล้วมันก็บอกว่า
“นี่ไงครับอาจารย์ น้ำเงี่ยนของอาจารย์ไหลออกมาแฉะมือผมไปหมดเลย อย่างนี้จะให้ผมเรียกว่าอะไรล่ะครับ แถวบ้านผมเขาเรียกอาการอย่างนี้ว่าน้ำแตก แล้วที่บ้านอาจารย์เขาเรียกว่าอะไร…” มันพูดเสร็จก็เอาน้ำเมือกที่มือของมันมาถูที่ข้างแก้ม ดิฉันอายมาจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีแต่ก็ไม้รู้จะทำอย่างไร
“ครั้งแรกก็เอาเบาๆ อย่างก่อนครับ โดนของเล็กๆ ก่อน เพราะเพิ่งเปิดซิงเดี๋ยวช้ำหมด ค่อยเป็นค่อยไป จะได้ไม่เสียของเปล่าๆ…” มันพูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย
“เฮ้ยทีนี้ ให้เจอของจริงแล้วเว้ย…พวกมึงล่อข้างบนไป…ส่วนกูจะล่อหีสวยๆ นี่ก่อนเอง…” พอไอ้หัวหน้ามันพูดจบ ไอ้สองตัวที่อยู่ในอาการหื่นเต็มที่ ก็จัดแจงช่วยกันปล้ำถอดเสื้อของครูคนสวยออกจนหมด
“โอ้โห…เฮ้ย…นมคนครูสวยฉิบหายเลย หัวนมงี้สีชมพูแจ๋เลย น่าดูดฉิบหาย…”
“อย่านะไอ้พวกเด็กสารเลว อย่างทำอย่างนี้กับฉันอีกนะ…อย่า…” ไม่ทันขาดก็คำร้องขอ ไอ้สองตัวเข้าล๊อกแขนท่าหิ้วปีกของดิฉันอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มันทั้งขยำ ทั้งเลียทั้งดูดจนฉันต้องร้องเสียงหลง ตัวอ่อนปวกเปียกไปหมด
“เฮ้ยไอ้ ยักษ์ มึงไปเอาของมา…” ไอ้หัวหน้ามันสั่ง ไอ้ยักษ์ชะงักอย่างเสียอารมณ์ แต่ก็หันหลังรีบวิ่งลงบันไดไป
จากนั้นมันก็หันกลับมาถอดกางเกงของมันออก อวัยวะของมันเด้งผึงออกมาตั้งเด่แกว่งไปมา ดิฉันมองเห็นยังตกใจ ขนาดของมันใหญ่เกือบเท่าราวบันใดเหล็ก แถมยาวอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่พวกมันอายุแค่ 17-18 เท่านั้น ดิฉันเห็นยังอดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้เลย รู้สึกตอนนั้นกลัวมากๆ
“นี่ไง ครับครู ที่เขาเรียกว่าควย…” มันจับท่อนเนื้อของมันแล้วก็รูดเข้ารูดออกจนเห็นหัวเงี่ยงบานผลุบเข้าผลุบออก
“นี่เขาเรียกว่า ถอกกระดอ ครับ…” มันย้ำแล้วก็มองสบตากับดิฉัน ดิฉันพยายามไม่มองมันแต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องมอง เพราะอีกไม่ช้าฉันจะต้องถูกมันทำร้ายจนได้
ไอ้สองตัวนั่นพอมันเห็นลูกพี่ของมันเดินถอกกระดอมาหา ก็เปลี่ยนจากมือไม้ที่ขยำขยี้นม มาเป็นท่าคล้องมือพาดบ่าหรือหิ้วปีกอีกครั้งหนึ่งเพื่อล๊อกตัวดิฉันให้ลูกพี่มันทำงานได้สะดวก พอไอ้หัวหน้ามันเดินมาถึงตรงหน้าของดิฉันมันก็จัดแจงดึงกางเกงในตัวบางของดันออก…แคว๊ก กางเกงในของดิฉันกลายเเป็นเศษผ้าปลิวกระเด็นไปไกล
มันผลักไหล่ของดิฉันให้เอนไปข้างหลังเล็กน้อย ไอ้สองคนนั่นมันก็ช่วยล๊อกตัวดิฉันให้อยู่ในตำแหน่งพอ ไอ้บัติ ก้มลงช้อนขาของดิฉันขึ้นมาข้างหนึ่ง ตอนนี้ตัวของดิฉันอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า มันจับขาของดิฉันยกขึ้นจากจากเดิมอีกเล็กน้อย แคมที่เคยประกบชิดกันอยู่ แหกออกจากกันเหมือนเตรียมพร้อมจะงับศัตรูที่ถลำเข้ามากล้ำกลายเหมือนกัน
“ขอโทษนะครับอาจารย์คนสวย ควยผมอาจจะใหญ่ไปหน่อย…” พร้อมกับจ่อหัวควยที่ถอกบานของมันตรงรูพอดีในท่ายืนอย่างนั้นแหละ
“อย่า…อย่า…” ดิฉันร้องขอมันอีกครั้ง แต่มันไม่ฟัง จับหัวถอกของมันแหย่มุดเข้าไปในรูของดิฉัน มันค่อยๆ เด้งตัวขึ้นไปจนหัวมันผุบเข้าไป
“โอ้ย…เจ็บ…โอย…อูย…ซี๊ด…” ฉันร้องครางเสียงหลง ยิ่งตอนที่มันเขยิบเข้าลึกไปเรื่อยๆ มันคับตื้อไปหมดเหมือนกับแคมขอดิฉันจะปริออกจากกันให้ได้ ดิฉันได้ยินเสียงของมันร้องเหมือนกัน “อูย…อูย…คับว่ะ…หีครูคนสวยนี้ฟิตดีจริงๆ…”
ไอ้สองนั่นก็ช่วยเร่งบีบนม เขี่ยหัวนม ทั้งดูด ทั้งขยำกันใหญ่ จนดิฉันเสียวตื้อไปทั้งข้างบน ข้างล่างไปหมด ไอ้หัวหน้ามันค่อยค่อยเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ จนถึงกับซอยเป็นบางครั้ง
“อูย…ฮือๆ…อูย…ซีด…ฮือๆ…” เสียงของดิฉันร้องออกแทบไม่เป็นสำเนียง ทุกครั้งที่ไอ้หัวหน้ามันซอยยิก บางจังหวะเมื่อดิฉันก้มลงไปมองตอนมันทำ เห็นท่อนของมันผุบเข้าผุบออกมีน้ำเมือกบางๆ เยิ้มหล่อเลี้ยง แคมสีขมพูของดิฉันก็ปลิ้นเข้าปลิ้นออกตามจังหวะกระแทก มันเร่งกระแทกอีกครั้งคราวนี้มันกดมิดด้ามเลย ดิฉันต้องเกร็งตัวเฮือกเลย เพราะรู้สึกว่าจังหวะกระแทกช่วงสุดท้ายนี้มันกระแทกมิดด้ามทุกครั้ง แล้วก็กระทุกถึงมดลูกเลย
“เฮ้ย…พวกมึง ปล่อยได้แล้ว ไปเตรียมทำหน้าที่ของพวกมึงได้…” มันสั่งทั้งๆ ที่มันยังกระแทกท่อนเนื้อของมันใส่ดิฉันอยู่
ไอ้สองคนนั่นพอมันปล่อยมือจากดิฉัน มันก็จัดแจงถอดเสื้อผ้ากางเกงของมันออกจนหมด พอมันหันมาดิฉันก็เห็นท่อนเอ็นที่ขนาดแทบจะไม่ต่างจากไอ้หัวหน้าของมันแกว่งเด่ไปมา
“อะไรกันหนอที่ทำให้ฉันต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของฉัน…” ดิฉันมองไปยังไอ้สองท่อนนั่นแล้ว นึกขึ้นในใจ
ไอ้หัวหน้ามันถอนท่อนเนื้อของมันออกจากรูหีของดิฉัน แล้วก็จับฉันหันหน้าเข้าไปทางบันไดที่ไอ้สองตัวนั่นยืนอยู่ ไอ้สองคนนั่นมันยืนขึ้นไปบนขั้นบันไดที่อยู่เหนือดิฉันไป 3 ขั้น ไอ้หัวหน้ามันผลักหลังของดิฉันให้ไปยืนชิดตรงขอบบันใดชั้นล่าง แล้วก็กดหัวชั้นลง ให้อยู่ในท่าก้มโค้ง แรงกดของมันทำให้หน้าของดิฉันไปอยู่ตรงบริเวณที่ไอ้สองคนนั้นยืนอยู่พอดี
ดิฉันเงยหน้าขึ้นมา ก็พอดีกับเห็นท่อนเนื้อของมันจ่ออยู่ตรงหน้าพอดี ไอ้หัวหน้ามันก็จับขาดิฉันแยกออกจากกันอีกครั้งแต่คราวนี้มันอยู่ข้างหลัง มันจับขาข้างหนึ่งขึ้นไปวางไว้บนบันไดขั้นที่ 2 และก็จับแขนดิฉันข้างหนึ่งยันไว้กับผนัง
“จะทำอะไรน่ะ…พอเถอะนะ…ครูขอร้อง…” ดิฉันอ้อนวอนแล้วอ้วนวอนอีก แต่ดูจะไม่เป็นผลอะไรเลย
“ไปเป็นไรหรอกครับ ครู…ผมจะสอนท่านี้ให้มันส์กว่าท่าเมื่อกี้อีก แต่ครูต้องช่วยไอ้บัติ กับไอ้แก้วมันด้วย เห็นไหมมันยืนควยเด่ รอให้ครูช่วยมันอยู่น่ะ…” มันพูดไปก็เริ่มปฏิบัติการอีกครั้ง มันจับหลังของดิฉันกดลง แล้วมันก็เอามือสองข้างดันก้นของดิฉันให้เด้งขึ้นเล็กน้อย แล้วค่อยๆ จับท่อนเนื้อใหญ่ยาวของมันยัดเข้าไปในรูหีอีกครั้ง คราวนี้มันโหย่งอยู่สองทีแล้วแทงพลวดเข้าไปเลย ดิฉันสะดุงสุดตัว ร้องลั่น
“โอ้ย…ซี้ด…” เสียงของดิฉันร้องออกมาทันทีที่ท่อนเนื้อของมันกระแทกเข้าไปสุดปลายลำ
“ครูช่วย ไอ้สองตัวมันด้วย…” มันพูดขณะแยงถูเข้ามาในจังหวะเบาๆ
“ไม่นะ…จะให้ครูทำอะไร…ไม่นะ…” สวบ…สวบ… “โอ้ย…อูย…โอ้ย…อย่างกระแทกอย่างนั้นมันเสียว…” ไอ้หัวหน้ามันกระแทกจนตัวดิฉันโยกไปทั้งตัว นมงี้แกว่งกระแทกขึ้นลงตามจังหวะ สวบ…สวบ… “นี่จะทำหรือไม่ทำ…” มันกระแทกรุนแรงมากขึ้น จนดิฉันทนไม่ไหวต้องเงยหน้าขึ้นไปมองไอ้สองคนนั่น มันแสยะยิ้มให้ แล้วก็จับมือดิฉันข้างหนึ่งรั้งไปจับท่อนเอ็นของมัน ดิฉันรีบชักมือหนี แต่ไอ้หัวหน้ามันก็ยิ่งเร่งกระแทกเข้าไปในข้างในจนเสียวสุดจะทน ดิฉันจึงต้องกลั้นใจเอื้อมมือไปจับท่อนเอ็นของไปแก้ว
ตอนจับมันครั้งแรกรู้สึกขยักแขยงอย่างไรไม่รู้ มันแข็งตัวแต่พอบีบมันก็รู้สึกนุ่มๆ ยืดหยุ่นตัวได้ ไอ้แก้วมันจับบังคับให้มือของดิฉันรูดขึ้นรูดลงให้มันด้วย ดิฉันเหลือบไปมองเห็นหัวถอกแดงของมันผลุบโผล่อยู่ที่มือของฉัน สักพักจึงค่อยรู้สึกว่ามันนุ่มดี เสียงไอ้แก้วมันร้อง “ซี๊ด…ซาด…” เวลาถูกมือดิฉันรูดขึ้นลงให้มัน ตอนนี้ดิฉันรู้สึกว่าตัวเองมีอารมณ์ความรู้สึกแปลกประหลาดอย่างไรพิกล
ขณะอารมณ์ของดิฉันกำลังแตกกระเจิงจากการกระซวกข้างท้าย และมือที่กำควยของแก้วมันแน่นเหมือนจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือ ไอ้บัติก็ถลาเข้ามากระชากผมของดิฉันไปข้างหลัง ใบหน้าของดิฉันก็เงยไปตามจังหวะของแรงกระชาก ปากดิฉันก็อ้าพอดี กับที่ไอ้มันจับท่อนเอ็นของมันยัดเข้ามาเต็มปาก ดิฉันจะกัดก็กัดไม่ได้เพราะของไอ้บัติมันใหญ่เต็มปากจนขากรรไกรแทบค้าง มันกระแทกใส่ปากของดิฉัน ถอดก้นออกแล้วก็กระแทกเข้าไปใหม่ทุกครั้งก็กระแทกคอหอยทุกครั้งไป บางครั้งก็ต้องหลับตาปี๋ เพราะหมอยของไอ้บัติมันกระแทกเข้ามาที่ตา
มือก็ต้องรูดควยของไอ้แก้ว ปากก็ต้องอมควยของไอ้บัติ หีก็โดนกระเด้าอย่างรุนแรงจากด้านหลัง มือข้างหนึ่งก็ต้องคอยค้ำยันผนังเพื่อให้มันเกิดการทรงตัวที่ดี มาถึงตรงนี้ ดิฉันไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกตอนนั้นได้อย่างไร มันเต็มตื้อไปหมด และดิฉันก็รู้ว่าตัวเองเดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางไปไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
และครั้งนี้ก็กำลังจะเข้าสู่จุดสุดยอดครั้งที่ 3 เมื่อไอ้หัวหน้ามันเร่งกระแทกแรงกว่าเดิม ตูดของดิฉันกระแทกกับหน้าขาของมันเสียงดัง พลั้ว…พลั้ว…ตลอดเวลา เสียงการเสียดสีกันของหีกับควยของครูกับลูกศิษย์กระแทกกันสนั่น ไอ้บัติก็เร่งกระเด้าควยใส่หน้าของดิฉันอย่างไม่บันยะบันยัง ส่วนไอ้แก้วก็เริ่มตัวเกร็งเต็มที่กับจังหวะรูดควยของดิฉัน
“โอ้ย…โอ้ย…ซี๊ด…โอ้ย…ครูไม่ไหวแล้ว…จะแตกอีกแล้ว…โอ้ย…” ดิฉันถอนปากจากควยของไอ้บัติร้องลั่น ในขณะที่ไอ้บัติก็เกร็งสุดตัว พ่นน้ำเมือกสีขาวข้นใส่หน้าของดิฉันจนเปรอะเปลื้อนไปหมด ไอ้แก้วก็เช่นกันร้องลั่น
“อย่าหยุดครู…อย่าหยุดครู…ผมจะออกแล้ว…” ดิฉันเร่งเอามือกระแทกควยของมันจนหัวถอกบานทะโล่ สิ้นเสียงร้องมันเกร็งขึ้นสุดตัว ดิฉันหันไปมองเห็นน้ำของไอ้แก้วแตกกระจายพุ่งใส่อากาศเป็นสาย บางส่วนก็กระเด็นมาโดนหน้าของดิฉัน น้ำของไอ้แก้วนี่พุ่งแรงกว่าของไอ้บัติเสียอีก
“อูย…ซี๊ด…อูย…” เสียงไอ้หัวหน้ามันร้องพร้อมกับก้มลงมากอดรัดแน่นบนตัวดิฉัน ตัวก็กระเด้าควยใส่หีของฉันไป มือขยำนมของดิฉันด้วย มันเกร็งตัวครั้งสุดท้าย พร้อมๆ กับที่น้ำของดิฉันก็แตกออกมาพร้อมกัน ฉันรู้สึกได้ว่ามีน้ำอุ่นฉีดพุ่งเข้าไปในตัวของดิฉันแรงมาก แล้วก็ก้อนควยของมันบวมพองคับรูของดิฉันจนแน่นไปหมดตามจังหวะฉีดน้ำของมัน
เสียงครวญครางของเราทั้ง 4 สิ้นสุดลงพร้อมๆ กัน และพร้อมๆ กับร่างกายที่ทรุดฮวบหมดเรี่ยวหมดแรงลงนอนแผ่หลากันอยู่ตรงพื้นระหว่างพักขั้นบันได ตอนนั้นดิฉันรู้สึกว่าอยากผลักตัวของไอ้สารเลวทั้ง 3 นี้ออกไปให้ไกลที่สุดแต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำแบบนั้น ทั้งไอ้หัวหน้ามันและอีกสองคนมันก่ายกองอยู่บนตัวของดิฉันทั้งๆ ที่ขาของดิฉันยังถูกจับแหกจนหีบานน้ำเยิ้มอยู่
สักพักก็ได้ยินเสียงไอ้นักเรียนอีกคนหนึ่งที่ถูกใช้ไปหยิบของวิ่งขึ้นมาถึง
“มาแล้ว…ของมาแล้ว ทีนี้จะได้ถึงคิวก็ซะที…” ไอ้คนที่ 4 วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามา จนดิฉันต้องรีบหดตัวที่เปล่า ควานหาเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกไปมาปิดไว้ด้วยความอาย
“ไอ้ห่ายักษ์ มึงไปทำห่าอะไรมาวะถึงช้าฉิบหาย…” ไอ้บัติด่าทอไอ้เด็กนักเรียนตัวใหญ่ ทำให้ดิฉันเพิ่งรู้ว่าไอ้คนที่ 4 นี่ชื่อไอ้ยักษ์ ในใจของดิฉันออกจะหวั่นๆ กลัวๆ เหมือนกันว่า มันมีแผนอะไรอีก เพราะขนาดที่ไอ้ยักษ์ต้องลงทุนทิ้งเหตุการณ์นี้ไปจัดการให้พวกมัน
“ช้าห่าอะไรล่ะ ไม่รู้ใครแม่งเอาไปไหน กูเลยต้องขี่รถเครื่องไปซื้อใหม่ที่ตลาด…” มันพูดไปตาก็เหลือบมองสภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของมันไป
“โอ้โห…ไอ้พวกฉิบหาย พวกมึงมิได้ล่อคุณครูคนสวยจนเยินหมดแล้วหรือวะ…” ขณะที่ไอ้ยักษ์มันพูดไปดิฉันก็สังเกตเห็นแถวเป้ากางเกงของมันเริ่มมีอาการผิดปกติขึ้นมา อวัยวะส่วนนั้นของมันเริ่มมีอาการตื่นตัวขึ้นมาดุนจนกางเกงตุงเลย
ดิฉันเริ่มเสียวสะท้านขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่จะปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้อีกแล้ว ฉันจึงพูดเสียงแข็งกับมันไปว่า
“นี่พวกเธอรู้ตัวรู้เปล่าว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ มันเป็นสิ่งที่เลวทรามมากนะ ครูจะไม่ยอมทนรับเหตุการณ์อย่างนี้ได้หรอกนะ…”
“โถ่… คุณครูครับทำไมผมจะไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ ก็กำลังช่วยกันเย็ดครูนี่ไงครับ…” ไอ้คนหัวหน้ามันพูดแล้วก็ หัวเราะหึ…หึ
ดิฉันทนฟังไม่ได้อีกแล้ว จึงใช้เรี่ยวแรงที่มีอยู่ผลักตัวของมันออกไปจนกระแทกกับราวบันใด แล้วก็รวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือยันตัวขึ้นกะว่าจะพุ่งตัวไปให้ถึงบันไดวิ่งนี้อกไปจากขุมนรกนี่ ส่วนที่เหลืออะไรจะเกิดก็ช่างมัน แต่พอดิฉันพุ่งไปยังไม่ถึงบันใดเลย ไอ้ยักษ์ก็เอาตัวโดดเข้ามาขวางไว้ ชนกับมันโครมบ่ะเร่อจนมึนไปหมด แขนทั้งสองข้างก็ยังกอดเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้สวมใส่ไว้ ส่วนตัวดิฉันก็ยังเปล่าเปลือยอยู่
ดิฉันโดนไอ้ยักษ์จนตัวเซแถไปกระแทกกับประตูห้องน้ำครูที่ยู่ช่วงระหว่างทางขึ้นบบันได จากแรงปะทะทำให้ประตูห้องน้ำมันเปิดผลั๊วออกไป ตัวดิฉันก็หลุดเข้าไปกองอยู่กับพื้นห้องน้ำครูตอนนั้นรู้สึกเจ็บก็เจ็บมึนก็มึน เสียงไอ้ยักษ์มันรีบผลักประตูตามเข้ามา คงกลัวว่าดิฉันจะปิดล๊อกขังตัวเองไว้ข้างในนั้น
“อาจารย์ทำอย่างนี้ก็สวยน่ะสิครับ…” ว่าแล้วมันก็ถอดเสื้อของมันออก ตามด้วยถอดกางเกงเหวี่ยงทิ้งไปข้างๆ
ท่อนเอ็นแข็งปั๋งของมันเด่งอนเหมือนหัวงูส่ายไปมาพร้อมจะฉกอยู่ตรงหน้า มันจัดแจงหยิบกระปุกสีเหลืองๆที่อุตส่าห์ลงทุนไปซื้อถึงตลาดขึ้นมา เปิดฝาออกแล้วก็ควักครีมใสๆ ออกมา รูดกับท่อนเอ็นที่เกือบเท่าแขนดิฉันจนมันลื่น
“นั่นเธอจะทำอะไรน่ะ เอาวาสลินมาทำอะไรน่ะ…” ดิฉันร้องถามมันด้วยความตกใจกลัว เพราะตอนนั้นดิฉันไม่เคยรู้เลยว่าวาสลินเขาเอามาทาไอ้ตรงนั้นทำไม ตั้งแต่ตอนเด็กจนโตเป็นสาวมานี้ ดิฉันไม่เคยได้ใส่ใจไอ้เรื่องพรรณนี้อยู่แล้ว เป็นเด็กเรียน แล้วก็รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันน่าขยักแขยง
“เดี๋ยวก็รู้ครับคุณครู รับรองว่าครูต้องติดใจแน่ๆ …” ขณะที่มันพูดมือมันก็ยังรูท่อนเนื้อของมันเข้าออกเล่นอยู่
มันตรงมาที่ดิฉัน แล้วก็จับแขนของดิฉันดึงรั้งขึ้นมา ดิฉันพยายามขัดขึ้นแต่ก็ไม่อาจต้านทานความแข็งแรงของมันได้ ตัวดิฉันปลิวตามแรงดึงของมันขึ้นมายืน แล้วมันก็ผลักให้ตัวดิฉันหมุนหันด้านหลังมาทางมัน ตัวของดิฉันหมุนเซไปพอดีกับหันเข้าแท่นปูนที่วางอ่างล้างมือ ที่กว้างพอจะวางอ่างล้างมือได้ 2 อัน ดิฉันต้องรีบทิ้งเสื้อผ้าที่หนีบกับหน้าอกไว้เอามือยันกับขอบปูนอ่างล้างมือเพราะกลัวตัวไปกระแทกแล้วจะยิ่งเจ็บตัวมากกว่านี้
จากนั้นมันก็ตรงมาด้านหลังดิฉันเอามือกดหลังช่วงระหว่างหลังกับเอวให้ตัวนอนคว่ำหน้าแนบกับอ่างล้างหน้าไว้ไอ้ยักษ์มันเอามืออีกข้างหนึ่งของมันจับท่อนเอ็นที่แข็งปั๋งของมันจ่อเข้ากับรูหีของดิฉัน แล้วก็แยงมันเข้ามาในร่างกายของฉันอีกครั้ง ตอนนี้มันปล่อยมือที่กดหลังไว้มาจับตรงก้นของดิฉันแทน มันใช้นิ้วมือแหกร่องก้นให้กว้างเพื่อที่มันจะได้เข้าได้สะดวกง่ายขึ้น
“อย่านะ…อย่าทำอีกนะ…ไม่นะ…โอย…” ดิฉันร้องขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ดิฉันรู้สึกว่าไม่ดิ้นรนเหมือนคราวแรกที่โดนรุมข้างนอก อาจเป็นเพราะว่าดิฉันเริ่มรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับดิฉัน และบางครั้งก็รู้สึกว่าเผลอร่วมมีอารมณ์คล้อยตามในจังหวะที่มันสาวท่อนเนื้อของมันเข้าออกในร่องสวรรค์ของดิฉัน
แล้วยิ่งมาเจอความต่อเนื่องในการปฏิบัติการของไอ้สาระเลว 4 คนนี้ มันทำให้ดิฉันถึงกับน้ำเงี่ยนแตกไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน อาจจะด้วยเพราะใหญ่ของได้ยักษ์กับความใหม่ซิงของดิฉัน มันก็ทำให้น้ำเงี่ยนของดิฉันแทบจะทะลักทลายมออกมาอีกครั้ง
“อูย…หยุดเถอะ…ครูขอร้อง…อูย…ซี๊ด…ไม่ไหวแล้ว…” ดิฉันถึงกับร้องครางในจังหวะที่มันสวนเข้าไปมิดด้าม
ขณะที่พอเงยหน้าขึ้นมาแต่ละครั้งก็ต้องมองเห็นภาพของตัวเองในกระจกแล้วโดนไอ้ยักษ์กระเด้าเหมือนหมาอยู่ด้านหลัง ยิ่งเร่งอารมณ์ให้น้ำเงี่ยนแตกกระเร็วขึ้น
“โอ้ย…โอ้ย…เร่งอีก…อูย…แตกแล้ว…น้ำของครูแตกแล้ว…โอ้ย…” ดิฉันหลุดคำพูดนี้ออกไปได้อย่างไรก็ไม่ทราบ
“อื…ม…ตอดดีจัง…หีของครู…ตอดควยดีจังเลย…ซู๊ด…” พอไอ้ยักษ์มันเห็นว่าดิฉันคงจะถึงจุดสุดยอดแล้วมันก็ค่อยๆ ชักของมันออกจากรูหีที่หยดเยิ้มไปด้วยน้ำกามกับคราบวาสลินที่ฉาบอยู่ที่ควยไอ้ยักษ์
“ครูยังไม่ต้องลุกครับ…อยู่ท่านี้ไว้ก่อน…” ไอ้ยักษ์มันบอกแล้วก็ส่งเสียงเรียกคนข้างนอก
“เฮ้ยไอ้ชัช… มึงเข้ามาเล่นต่อข้างในนี่เถอะ…”ไอ้ยักษ์ตะโกนบอก ในทันทีร่างของไอ้หัวหน้าที่นอนแผ่อยู่ข้างนอกเมื่อสักครู่นี้ก็เดินควยเด่เข้ามาในห้องน้ำแล้วก็ตามด้วอีก 2 คน ยิ้มเผล่ฟื้นแรงมาอีกหนไอ้ยักษ์มันจับตัวดิฉันดึงถอยหลังมานิดหนึ่ง แล้วบอกให้ไอ้คนหัวหน้า ซึ่งเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ว่ามันชื่อไอ้ชัช ขึ้นไปนั่งพิงกับขอบปูนอ่างล้างหน้า
“ครูชอบกินไอติมไหมครับ ผมมีไอติมให้ครูชิม…” เสร็จแล้วมันก็รูดหัวปลิ้นหัวเงี่ยงของมันออกมาแดงแจ๋ แล้วก็กดหัวของดิฉัน ลงไปอมควยของมัน มันกดหัวดิฉันขึ้นๆ ลงๆ ตามจังหวะการเด้งรับของมัน มันกดให้ดิฉันอมของลึกขึ้นเรื่อยจนกระทั่งมิดด้ามแทงสุดคอหอยดิฉันพอดี กลิ่นสาบอ่อนๆ ของหมอยของมันติดจมูกของดิฉันขึ้นมาเลย ในขณะเดียวกันที่ไอ้บัติกับไอ้แก้วก็เริ่มใช้มือของมันมาบีบขยำนมช่วยเร่งอารมณ์ของดิฉันขึ้นมา
“อื้ม…อื้ม…” เสียงไอ้ชัชร้องครางขณะที่มันเด้งตัวขึ้นรับ ขณะนั้นดิฉันเริ่มรู้สึกว่ามือของไอ้ยักษ์มันกำลังค่อยๆ แหกตูดของดิฉันออก แล้วก็จับท่อนวควยของมันค่อยๆ ยัดเข้ามาทีละนิด ดิฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นตรงบริเวณม่านรูตูด จึงผงะปากจากควยของไอ้ชัชขึ้นมา “อย่านะ…อย่าทำอย่างนั้นนะ…หยุดเถอะ…” ดิฉันร้องอย่างตกใจ แต่ไอ้ชัชรีบกดกลับไปอมควยมันแล้วก็บอกว่า
“ตอนแรกก็เจ็บนิดเดียวล่ะครับอาจารย์ เดี๋ยวพอมันลื่นแล้วก็จะมันส์เอง นี่ไอ้ยักษ์อุตส่าห์ทาวาสลินช่วยแล้วนะครับ…” มันพูดยังกะจะเป็นห่วงรูตูดรูหีของดิฉันเสียเหลือเกิน
“อืม…อื่ม…” ดิฉันส่งเสียงร้องครางได้แต่ในลำคอ เพราะปากติดควยของไอ้ชัชอยู่ มันยิ่งเสียวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อท่อนเอ็นของไอ้ยักษ์เริ่มค่อยๆ ลึกเข้าไปเรื่อยๆ เสียงมันร้องไม่เป็นสับเหมือนกัน เพราะได้วาสลินช่วยควยไอ้ยักษ์กดทิ่มเข้าไปสักพักก็มิดด้าม มันรูดอยู่อีก 3-4 ครั้งก็ทิ่มพรวดๆ เข้าไปเลย
“โอ้ย…โอ้ย…ชะ…ช้า…หน่อย…อูย…ซี๊ด…จะทนไม่ไหวแล้ว…” ดิฉันทนไม่ไหวจึงต้องละปากออกจากควยของไอ้ชัช
ดิฉันอ้าปากร้องคราง รับความเสียวจากแรงกระแทกของไอ้ยักษ์ จึงต้องใช้มือไปรูดควยไอ้ชัชแทน
ปึก…ปึก…ปึก…เสียงจังหวะกระแทกเร่งเร็งขึ้นของไอ้ยักษ์ที่ทำให้ดิฉันร้องเสียงหลงทุกครั้ง
“อ้า…โอย…มันส์จริงๆ ได้เย็ดครูคนสวยเที่ยวนี้คุ้มจริงๆ …โอ้ย…” เสียความเสียวซ่านของไอ้ชัชที่ควยของมันถูกมือของดิฉันรูดขึ้นลงอย่างแรงเหมือนกับจะระบายความเสียวจากแรงกระแทกของไอ้ยักษ์
“โอย…กูออกแล้ว…กูออกแล้ว…” มันชักควยของมันออกมาจากตูดแล้วก็เร่งสาวเข้าสาวออกจนน้ำกามของมันแตกพุ่ง มากระแทกรูตูดกับรูหีของดิฉันเลอะเทอะไปหมด
พอไอ้ยักษ์ถอยออกไปไอ้สาระเลวบัติก็มาต่อคิว มันไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลยมาถึงเอาควยจ่อแล้วก็ทิ่มเอาทิ่มเอา สงสัยคงเงี่ยนจัดตอนมาช่วยโลมดิฉันจนดิฉันต้องร้องออกมา
“โอ้ย…เบาๆ…โอ้ย…เบาๆ…ตูดแหกหมดแล้ว…” มันเร่งกระแทกอยู่อีกสัก 10 กว่าทีก็ปล่อยน้ำพุ่งใส่ดิฉันไปอีกคน ในขณะที่ดิฉันก็รูดจนไอ้ชัชน้ำแตกกระจายตามเลอะเทะตัวดิฉันเต็มไปหมด
“ไอ้แก้ว มึงช่วยสงเคราะห์ครูเขาต่ออีกหน่อยสิวะ ดูสิกำลังเงี่ยนได้ที่เลย ไอ้ห่าบัติเสือกแตกซะแล้ว…” เสียงไอ้ยักษ์พูดจากด้านหลังของดิฉัน มันเดินมาจัดตัวดิฉันพาเดินไปส่งในห้องส้วมที่มีไอ้แก้วนั่วสางควยก็อยู่
“จะให้ครูทำอะไรอีก…ไม่แล้วนะขอร้องเถอะ…” ดิฉันพูดขึ้นในขณะที่อารมณ์ยังค้างอยู่ มันได้หาฟังคำขอร้องไม่
“อาจารย์ขึ้นไปคร่อมไอ้แก้วไว้ แล้วทีนี้ครูเป็นคนทำบ้างจะได้ยุติธรรม…” ไอ้ยักษ์พูด
“จะบ้าเรอะ…” ดิฉัดขัดขืนเล็กน้อยแต่ก็เงี่ยนแบบสุดๆ เลยต้องทำตามการท่าจัดทางของดิฉันเพื่อเตรียมการให้ไอ้แก้วทะลวงตูดของดิฉันอีกคน
พอจัดท่าเสร็จเรียบร้อยไอ้แก้วก็จัดแจงจับควยที่เยิ้มไปด้วยวาสลินซึ่งทาคอยไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งลำรับรูตูดของดิฉันเลย
ตอนนั้นดิฉันรู้สึกเขินอายมาก เพราะเกิดมาไม่เคยทำอะไรอย่างนี้มาก่อนนอกจากแอบช่วยตัวเองบ้างในบางครั้ง แล้วอีกอย่างหนึ่งก็คือมีไอ้สาระเลว 3 ตัวนั่นมันแกล้งดิฉันจนหัวปั่นไปหมด แต่ถึงขณะนี้ดิฉันก็บอกตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับสติสัมปัญญะของตัวเองตอนนั้น รู้แค่เพียงว่าเงี่ยนสุดๆ จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว
ไอ้ยักษ์มันช่วยจัดท่าของดิฉันโดยให้ดิฉันเอามือ 2 ข้าง ค้ำไว้กับผนังส้วมเพื่อทรงตัวแล้วก็ยืนค่อมตัวหลังให้กับไอ้แก้ว เพราะดิฉันอายที่จะต้องเผชิญหน้ากับมันแล้วก็ปิดประตูแง้มไว้เหมือนรู้ว่าดิฉันจะอาย ดิฉันโย่งตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วก็หย่อนตูดลงให้พอดีกับควยของไอ้แก้ว พอได้จังหวะได้แก้วมันก็ช่วยจับเอวของดิฉันยกขึ้นกดลงให้พอดีกับจังหวะควยของมัน บางจังหวะมันก็เด้งขึ้นมารับบ้าง
“เฮอะ…เฮอ…อูย…ซี๊ด…” เสียงครงของดิฉันกับไอ้แก้วสอดประสานกันโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อการรูตูดของดิฉันกับท่อนควยของไอ้แก้วมันลิ่นไหลขึ้นอีกครั้ง แล้วไอ้สาระเลว 3 ตัวนั่นก็มันก็เปิดประตูเข้ามาอีก แต่แค่ยืนดูเฉยๆ ทั้งๆ ที่ควยยังห้อยต่องแต่งอยู่
“ไอ้บ้า…ปิดประตูเดี๋ยวนี้…” ดิฉันพยายามจะใช้มือที่ค้ำทรงตัวอยู่ยืนมาปิดประตู แต่ไอ้ชัชมันยืนพิงกันเอาไว้ ในขณะเดียวกันที่ดิฉันก็ยังขย่มไอ้แก้วมันต่อโดยไม่สนใจกับสายตาของไอ้ 3 ตัวนั่นอีกแล้ว
“สั้บ…สั้บ…พล๊อกๆ…” เสียงตูดของดิฉันกับโคนขาไอ้แก้วกระแทกกัน
ไอ้แก้วขอให้ดิฉันเปลี่ยนด้านบ้าง ดิฉันก็ยินยอมแต่โดยดี เพราะทนสายตาแทะโลมของไอ้ 3 ตัวนั่นไม่ได้เหมือนกัน พอหันหน้าเข้าหากันไอ้แก้วก็เปลี่ยนจากเอาควยยัดรูตูดมาเป็นยัดรูหีแทน ตอนนี้เต้านมของดิฉันที่ถูกไอ้แก้วกับไอ้บัติมันฟัดมาแต่ต้น กลับมาชูหราอยู่หน้ามันอีกครั้ง มันไม่พูดพล่ามทำเพลง ควยมันก็เด้งอัดเข้ารูหีจนแน่น ปากก็ทั้งเลียทั้งดูดหัวนมจนเสียวซ่านไปหมด
“จ๊วบ…จ๊วบ…ฟืด…” ดิฉันทนความเสียวซ่านแบบนี้ไม่ไหวอีกแล้วอีกแล้ว เร่งดีดตัวโยกขึ้นโยกลง วงแขนของไอ้แก้วก็กอดรัดเอวดิฉันแน่น ขณะเดียวกันดิฉันก็ต้องเอาแขนกอดโน้มคอของไอ้แก้วกดไว้ไม่มันเงยขึ้นเพราะกลัวว่ามันจะหยุดดูด เลียนมของดิฉัน ปึก…ปึก…ปึก… เสียงหีกระแทกควย
“โอ้ย…โอ้…เร็วเข้าเธอ…เร็วเข้า…เด้งแรงอีกๆ…โอ้ย…ออกแล้ว…ออกแล้ว…” ดิฉันเร่งกระแทกตัวพร้อมกับเกร็งตัวขมิบหีปล่อยน้ำเมือกออกเต็มปืดเมื่อถึงจุดสุดยอด พร้อมกันกับที่ไอ้แก้วก็กดเอวของดิฉันจนแน่นควยพองตัวคับแน่นรูหีที่ตอดรับกันพอดีของดิฉัน
แล้วก็มีน้ำเมือกอุ่นๆ พุ่งเข้าไปชนวาบถึงมดลูก ไอ้แก้วมันสาวเข้าออกอีก 2-3 ที ก็ดันตัวของมันขึ้นให้โคนควยของมันประกบกับรูหีจนแน่นเหมือนกับอยากให้ หีของดิฉันกินน้ำลูกสมุนของมันจนไม่ให้เหลือเล็ดลอดออกมาเลย มันกดแนบดิฉันไว้เกือบครึ่งนาทีขณะที่หน้าและแขนของดิฉันก็ซบกอดอยู่กับหน้าของมัน สักพักถึงคลายมือออกมา ดิฉันจึงรีบถอนหีที่งับควยมันไว้ออกมา ควานหาเสื้อผ้ามาใส่ปิดบังตัวเอง
“ไม่ต้องหาหรอกครับ อาจารย์ ผมเตรียมไว้ให้แล้ว…” ว่าแล้วไอ้ชัชมันก็ยืนเสื้อผ้าของดิฉันที่ถูกพวกมันรุมทิ้งถอดออกไปแต่แรกมาให้
“แต่ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่พวกผมดันเผลอฉีกกางเกงในของอาจารย์ทิ้งไป คงต้องเดินเอาหีตากลมไปจนถึงบ้านนะครับ…” ไอ้ชัชพูดขึ้น พร้อมกับเสียหัวเราะของไอ้ 3 ตัวนั่น ดิฉันจึงรีบคว้าเสื้อผ้าได้ก็เข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องส้วม
“อาจารย์ครับพวกผมรออยู่หน้าห้องน้ำนี้นะครับ เดี๋ยวพวกผมจะช่วยอาจารย์ถือของไปส่งที่บ้านเองครับ…” เสียงไอ้ชัชมันพูดเสียงเข้มเหมือนกับจะกลัวดิฉันหนีไปไหน
วันนั้นดิฉัน ออกมาจากตึกเรียนนรกนั่นได้ก็เกือบ 2 ทุ่ม เข้าไปแล้ว โดยมีไอ้วายร้ายผู้กระชากพรหมจรรย์ของดิฉันไปขยี้เดินคุมไปส่งที่บ้าน โดยเหมือนกับว่าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ในขณะเดียวกันดิฉันก็ต้องเดินเอาหีตากลมไปเหมือนอย่างที่มันว่า น้ำเมือกน้ำกามไหลออกมาจากรูหีเยิ้มลงมาเป็นทางตรงช่วงขาอันเรี่ยวงามของดิฉัน
เนื่องจากวันนั้นเป็นวันที่ไม่มีครูคนอื่นอยู่ที่บ้าน ครูบ้านอื่นก็เข้าบ้านของตัวเองกันหมดแล้วทำให้ ไอ้ 4 นรกนั่นถือโอกาสจับดิฉันเวียนเย็ดกันจนเกือบเช้า พวกมันบังคับให้ดิฉันนั่งดูวี.ดี.โอ.โป๊ ที่พวกมันเตรียมกันมาจนดิฉันนั่งน้ำแตกไปไม่รู้กี่รอบ แล้วพวกมันก็บอกว่าท่าที่ใช้เย็ดดิฉันน่ะก็จำมาจากในนี้แหละ คืนนั้นมันรุมเย็ดดิฉันตั้งแต่ ในห้องรับแขก หน้าห้องครัว โต๊ะกินข้าว ราวบันได ห้องน้ำ ยันห้องนอนของดิฉัน จนน้ำกามมันหยดเปรอะเลอะไปหมด ก่อนที่พวกมันจะแยกย้ายกันหายกันไปในความมืด ทิ้งให้ดิฉันนอนหมดแรงสลบไสลอยู่คนเดียวจนเกือบเที่ยงอีกวัน
ดิฉันต้องแบกร่างกายอันทรุดโทรมมาเก็บบ้านทำความสะอาดในวันรุ่งขึ้นขนานใหญ่ และก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เหตุการณ์เลวร้ายมันไม่ยอมผ่านพ้นไปจากชีวิตฉันได้ง่ายๆ เลย เพราะทุกๆ วันศุกร์ที่เพื่อนครูคนอื่นๆ กลับบ้านกันหมด ไอ้ 4 คนนั่นก็ถือโอกาสมาเย็ดกับดิฉันข้ามคืนทุกทีจนพวกมันจบ ม.6

ผมเปิดซิงตัวเองโดยการลักหลับพี่สาวเพื่อน

noa-kazasumi-2

เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมอยู่ม.3 (ตอนนี้ผมอายุ 20 กว่าแล้ว) ช่วงประมาณเดือนกันยายนซึ่งก่อนหน้านั้นผมไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงมาก่อนเลย เรื่องมีอยู่ว่าผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่ง เพื่อนคนนี้มีพี่สาว 2 คน แต่งงานแล้วทั้งคู่ซึ่งคนหนึ่งไปอยู่บ้านแฟนที่ต่างจังหวัด แต่อีกคนหนึ่งหลังจากแต่งงานได้แยกปลูกเรือนอยู่กับแฟนโดยปลูกถัดจากหลัง เดิมซึ่งเป็นบ้านของพ่อกับแม่ไปทางหลังบ้านซึ่งบ้านของเพื่อนคนนี้อยู่ท้าย หมู่บ้านซึ่งเป็นทุ่งนา พี่คนนี้ชื่อพี่นิด ตอนนั้นพี่นิดอายุประมาณ 25 ปี แต่งงานมีลูกแล้ว 1 คน อายุ 2 ขวบ พี่นิดเป็นสวยมากหุ่นอวบกำลังดีมีจุดเด่นคือสะโพกใหญ่ตอนนั้นให้เดาน่าจะสัด ส่วน 36 26 37 สูงก็ราวๆ 165 ซม. ซึ่งผมตอนนั้นก็สูงราวๆ167 ซม. แกแต่งงานกับคนต่างจังหวัด ทำให้หนุ่มๆในหมู่บ้านตอนนั้นผิดหวังไปตามๆกันซึ่งแฟนแกก็หน้าตาดีเช่นกัน ชอบมีคนพูดว่าหน้าตาเหมาะสมกันดี ช่วงนั้นแฟนแกไม่อยู่บ้านไปทำงานที่กรุงเทพฯและให้แกเลี้ยงลูกอยู่บ้าน โดยปกติผมกับเพื่อนคนนี้ชอบไปนานค้างที่บ้านของกันและกันเป็นประจำ และเนื่องจากแฟนพี่นิดไม่อยู่ประกอบกับบ้านแกค่อนข้างเปลี่ยวแกจึงให้น้อง ชายซึ่งก็คือเพื่อนผมไปนอนเป็นเพื่อน เพื่อนผมจึงมาขอให้ผมไปนอนเป็นเพื่อนอีกคนจนกว่าแฟนพี่นิดจะกลับมาซึ่งจะ กลับมาช่วงปีใหม่ โดยผมกับเพื่อนนอนด้วยกันอีกห้องหนึ่ง ส่วนพี่นิดกับลูกนอนกันอีกห้องหนึ่งและแกบอกว่าถ้ามีอะไรก็เคาะประตูเรียกแก ถ้าเรียกไม่ตื่นก็ให้เปิดประตูเข้าไปเรียกได้ ผมจะมาหาเพื่อนเพื่อมานอนที่บ้านพี่แกก็ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง เพื่อทำการบ้านและดูหนังกันโดยดูกันที่ห้องใหญ่ที่บ้านพี่นิด ซึ่งเวลาดูทีวีเพื่อนผมมักจะหลับทุกครั้ง และให้ผมปลุกไปนอนในห้องซึ่งปลุกยากมากๆ เพราะเพื่อนเป็นคนนอนขี้เซา และผมจะกลับบ้านตอนเช้า เพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน จากการที่ผมได้มาใช้ชีวิตที่บ้านพี่นิดมาได้ 10 กว่าวันในช่วงเวลากลางคืนนี่เองทำให้ผมได้มีโอกาสเห็นพี่นิดเวลาเข้าออกห้อง น้ำตอนอาบน้ำโดยแกจะนุ่งกระโจมอกทุกครั้งเวลาอาบน้ำ และเห็นแกให้นมลูก นี่เองที่ทำให้ผมรู้ว่าพี่นิดเป็นคนที่น่าเอามาก ขาวอวบ เวลาผมเห็นแกทำให้น้องชายผมแข็งทุกครั้งและแอบจำภาพแกไปชักว่าวเสมอ มันทำให้ผมตั้งใจไว้ว่าผมต้องได้เห็นของแกมากกว่าที่เคยเห็น จากนั้นเวลาเข้านอนผมจะชอบปลุกเพื่อนบ่อยๆเพื่อดูว่าเพื่อนจะตื่นหรือไม่แต่ เพื่อนก็ไม่ตื่นบางครั้งผมก็แกล้งดึงหมอนออกจากหัวเพื่อนเพื่อนก็ไม่ตื่นและ ผมสังเกตุได้ว่าตั้งแต่ผมมานอนที่บ้านพี่แกลูกชายแกไม่เคยตื่นมาร้องไห้ตอน ดึกเลยสักครั้งเดียวจนกระทั่งวันหนึ่งซึ่งผ่านมาได้ประมาณ 15 วันนับจากวันที่ผมเริ่มไปนอนที่บ้านพี่นิดแก วันนั้นผมรอเวลาให้ดึกจนกระทั่งถึงเวลาประมาณตี1 ผมได้ไปเคาะประตูห้องแกเคาะอยู่หลายทีก็ไม่มีเสียงตอบมาผมจึงค่อยๆบิดลูกบิด เปิดประตูเข้าไปและในความมืดผมสามารถมองเห็นพี่นิดนอนหงายอยู่บนที่นอนซึ่ง เป็นฟูกปูกับฟืนขนาดกว้างนอนได้ประมาณ 3 คน และห่างจากตัวแกไปประมาณ 1 เมตรด้านซ้ายมือแกมีลูกชายแกนอนอยู่ผมจึงค่อยๆปิดประตูห้องและย่องไปนอน ข้างๆขวามือแกนอนนิ่งอยู่สักพักและกำลังชั่งใจอยู่สุดท้ายคิดว่าเป็นไงเป็น กันแล้วผมจึงใช้มือลูบที่หน้าท้องแกแล้วสอดเข้าไปลูบข้างในเสื้อไปมา หัวใจผมเต้นแรงจนได้ยินชัดเจน จากนั้นผมได้ใช้มือลูบเลื่อนลงไปที่หว่างขาลอดใต้ขอบกางเกงชุดนอนจนไปถึง เนินหอยของพี่นิดผมตื่นเต้นจนไม่รู้จะทำยังไงเพราะไม่เคยเห็นหรือได้จับของ ผู้หญิงมาก่อนของพี่นิดใหญ่มากโหนกนูนสุดๆจนล้นมือของผม ผมสัมผัสได้ว่าร่องของแกแยกออกจากกันเพราะแกนอนหงายและแยกขาเล็กน้อยทำให้ รู้สึกถึงไออุ่นร้อนๆที่ออกมาจากร่องของแกผมเอามือวางไว้เฉยๆก่อนโดยที่ยัง ไม่ทำอะไร โดยที่แกก็ไม่รู้สึกตัวจากนั้นผมจึงเอานิ้วกลางวางทาบไปตามร่องและถูไปมา เบาๆแล้วใช้นิ้วกลางนิ้วเดิมแหย่เข้าไปในรูของแกซึงอยู่ต่ำมากทำให้เข้าไป ได้นิดเดียวประมาณ 2 ข้อมือ ผมรู้สึกว่ามันล้วงไม่ถนัดมือจึงได้เอามือออกมาและค่อยๆจับขอบกางเกงของแก และดึงลากเบาๆซึ่งใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะผ่านก้นอวบๆของแกมาอยู่ที่บริเวณ เข่าแก ทีนี้ผมจึงก้มหน้าไปใกล้ๆหอยแกและใช้จมูกจ่อดมไปที่ร่องจนได้กลิ่นหอยของแก ซึ่งถึงกะทำให้น้องชายผมที่แข็งอยู่แล้วถึงกะปวดตุบๆจนทนไม่ไหวต้องนอนหงาย ลงข้างๆแกใช้มือชักว่าวช่วยตัวเองและมืออีกข้างจับหอยแกจนน้ำของผมแตกกระจาย ซึ่งผมได้เอามือข้างที่จับหอยพี่แกมารองเอาน้ำไว้แล้วเอาไปลูบหอยแกจนนำผม เปียกทั่วหอยของแกผมนอนหมดแรงอยู่สักพักจึงได้พยายามใสกางเกงกลับให้แกแต่ก็ ใส่ไม่ได้จึงได้กลับมานอนที่ข้างเพื่อนและเริ่มกลัวว่าแกจะรู้แต่พอตื่นมา ตอนเช้าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นและพี่เขาก็ตื่นนอนก่อนผมกับเพื่อนผมจึงได้กลับ บ้านไปและกลางคืนผมก็มานอนที่บ้านแกอีกและทำแบบเดิมอีกซึ่งครั้งนี้ง่ายกว่า เดิมเพราะแกใส่ชุดคลุมที่แหวกผ่ากลางตัวโดยมีปมผูกที่หน้าอกและวันรุ่งขึ้น ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นเดิมผมเลยคิดว่าคนบ้านนี้ขี้เซากันซะจริง มิน่าถึงต้องให้น้องชายมาอยู่เป็นเพื่อนแต่หารู้ไม่ว่าน้องชายไม่ได้ช่วย อะไรเลยหลังจากนั้นผมก็ทำกับพี่เขาแบบนี้ทุกวันได้5-6วันซึ่งวันไหนถ้าใส่ ชุดคลุมก็ง่ายหน่อยแต่วันไหนไส่กางเกงนอนก็ลำบากหน่อย จนกระทั่งวันหนึ่ง จำได้ว่าเป็นวันที่ศุกร์ที่ 27 กันยายน วันนั้นก็เหมือนเดิม ผมกะไว้ว่าวันนี้ต้องทำมากกว่าเดิมถ้าแกใส่ชุดคลุมนอน แล้วก็เป็นจริงเวลาประมาณ 4 ทุ่มแกก็เข้านอนในชุดคลุม แล้วหลังจากนั้นไม่นานผมก็ปลุกเพื่อนเข้าไปนอนในห้องซึ่งผมไม่หลับเลยจน กระทั่งตีหนึ่ง ผมก็ทำเหมือนเดิมแต่คราวนี้ผมแก้ปมเชือกพี่นิดออกทุกปมแล้วแหวกไปวางอยู่ ข้างลำตัวแกทั้งสองข้างลักษณะเหมือนกับแกนอนทับเสื้อที่ปูวางอยู่เฉยๆ แล้วผมก็จับขาแกแยกออกกว้างๆแล้วไปนั่งคุกเข่าอยู่ตรงกลางแล้วก้มลงหน้าลงไป เอาจมูกฝังลงในร่องเสียวแกแล้วจึงสูดดมเกลือกกลิ้งจมูกกับร่องแกไปมา จากนั้นผมใช้ลิ้นเลียตรงร่องแกและใช้ปลายลิ้นดุนตรงติ่งเสียวของแกและดูดจน น้ำแกเริ่มเยิ้มติดปลายลิ้นและแกมีท่าทางเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายผมจึงหยุด และใจเต้นตุบๆแต่แกก็นิ่งเงียบ แล้วผมก็ได้ถอดกางเกงของตัวเองออกซึ่งผมไม่ได้ใส่กางเกงในหลังจากนั้นผมได้ เอาแขนข้างหนึ่งไปยันพื้นไว้ข้างตัวแกส่วนมืออีกข้างผมได้จับน้องชายตัวเอง ที่กำลังแข็งมาจ่อที่ร่องของแกและพยายามเอาเข้ารูแต่ตอนนั้นหารูไม่เจอ เนื่องจากมันมองไม่เห็นและขาพี่นิดเองก็แบะราบติดพื้นไม่ได้อยู่ในท่าชัน เข่าอีกอย่างผมก็ต้องทำเบาๆด้วยความระมัดระวังเพราะกลัวแกตื่น ผมพยายามจับของผมเลื่อนหาลงต่ำกว่าเดิมและเจอรูในที่สุดแต่ก็ยังเอาเข้าไม่ ได้เนื่องจากรูของพี่แกอยู่ต่ำเกินไปและของแกก็ใหญ่โหนกสูงมากผมจึงงอข้อศอก ที่ยันพื้นอยู่ให้ต่ำลงจนตัวแทบจะแนบกับตัวแกและแอ่นสะโพกลงต่ำมากๆโดยที่ ให้น้องชายของผมจ่ออยู่ที่รูจากนั้นผมจึงดันเอวไปข้างหน้าให้ตรงกับรูของพี่ แกโดยใช้มือที่จับอยู่ช่วยประคองและกดไม่ให้พลาดเป้าคราวนี้ได้ผลครับ ส่วนหัวของน้องชายผมเข้าไปอยู่ข้างในรูของแกอย่างไม่ยากลำบากเท่าใดนักตอน นั้นผมตื่นเต้นมากจริงๆเพิ่งเคยเสียบผู้หญิงเป็นครั้งแรกความรู้สึกไม่รู้จะ บรรยายยังไงแล้วผมก็ดันเข้าไปอีกจนมิดลำผมจึงเอามือสองข้างไปเท้าพื้นคร่อม แกเอาไว้แล้วก็เริ่มชักเข้าชักออกเบาๆ และเริ่มซอยเร่งเร็วขึ้นแต่ไม่เร็วมากได้ประมาณ 5 นาทีผมเริ่มเสียวมากขึ้นจนรู้สึกว่าน้ำมันมาเอ่อตรงปลายของผมผมจึงซอยเต็ม ที่ตั่บๆๆๆๆ แล้วน้ำของผมก็พุ่งปรี้ดด เข้าเต็มรูแกทันใดนั้นเองพี่นิดก็เอามือสองข้างมาจับที่ก้นผมผมตกใจมากพี่ นิดไม่ได้พูดอะไรแต่ได้ออกแรงกดก้นผมให้แนบกับรูของแกและแอ่นเอวขึ้นมาให้ แนบแน่นยิ่งขึ้น ผมจึงเด้งอัดเข้าไปอีก4-5ที จนรู้สึกว่าไม่มีน้ำออกมาแล้วซึ่งพี่นิดก็ยังไม่ปล่อยมือจากก้นของผมจนสัก พักพี่นิดจึงเลื่อนมือมาโอบที่หลังผมและดึงผมลงไปกอดแบบแน่นมากและพี่นิดได้ พูดขึ้นมาเป็นครั้งแรกว่าอย่าเพิ่งถอนออกนะผมจึงนอนแน่นิ่งอยู่บนตัวแกยอม รับว่าตอนนั้นมีความรู้สึกดีที่สุดระหว่างนั้นแกถามผมไปว่าเคยทำรึเปล่าทำไม เสร็จเร็วจังผมตอบไปว่าไม่เคยแกจึงพูดว่านี่เสียให้พี่คนแรกจริงเหรอผมตอบ ว่าจริงครับแล้วแกก็ถามไปหลายอย่างว่าทำไมทำแบบนี้รู้ไหมว่าแกรู้ตัวตั้งแต่ วันแรกแต่ไม่ว่าอะไรเพราะไม่อยากให้น้องอับอายอีกอย่างก็อยากรู้ว่าน้องจะทำ อะไรต่อแต่ก็เห็นว่าไม่ได้ทำอะไรมากมายเลยปล่อยให้ทำไม่นึกว่าวันนี้น้องจะ กล้า แกก็พูดแบบนี้ผมก็เลยขอโทษแกแกก็บอกไม่เป็นไรแต่ทำแล้วก็ห้ามไปบอกใครผมก็ เลยรับปากบอกว่างั้นผมขออีกครั้งได้ไหมพี่นิดเลยถามว่าไหวหรือผมตอบว่าไหวแก ก็เลยบอกว่าตามใจผมเลยซัดเต็มรูปแบบเลยเท่าที่เคยดูในหนังโป๊ทั้งดูดนมเลีย หอยซึ่งตอนเลียนี้พี่นิดครางแทบไม่เป็นภาษาคนมือจับหัวผมกลิ้งเกลือกไปกับ หอยแก แกบอกว่าแฟนไม่เคยทำให้เลยสักครั้ง จากนั้นผมบอกว่าพี่เคยทำให้แฟนป่าวแกบอกก็เคยบ้างผมเลยขอให้แกทำให้ซึ่งแกก็ ทำผมยอมรับว่าเสียวมากจนผมบอกแกให้นอนหงายเนื่องจากไม่ไหวแล้ว แกก็นอนหงายจากนั้นผมได้จับยัดเข้าไปในรูแกและซอยยิกๆในทันทีซึ่งพี่นิดถึง กับครางออกมาว่าชมว่าของผมแข็งดีจังอร่อยหอยมาก และดึงผมลงไปกอดผมจึงต้องเปลี่ยนจากท่าที่ใช้มือยันพื้นเป็นท่ากอดแนบเนื้อ แล้วขยับก้นซอยซึ่งพี่นิดก็ครางตลอดเวลาซักประมาณ 10 นาทีผมก็เริ่มเสียวและเริงอัดเต็มที่พี่นิดก็หายใจถี่ขึ้น แล้วผมก็ปล่อยน้ำเข้ารูแกพร้อมกับที่แกถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วดูดคอผมอย่าง รุนแรงแกบอกว่าแกเสร็จแล้วและชมว่าผมเก่งจากนั้นผมกับแกก็ต่อกันอีกยกหนึ่ง คราวนี้ทำกันหลายท่าและใช้เวลานานมากกว่าผมจะเสร็จเมื่อจนไม่มีแรงเดินกลับ ห้อง และตอนเช้าแกปลุกผมตอนตีห้ากว่าๆให้กลับไปห้องแต่ผมได้ขอเอากับแกอีกแกก็ไม่ ขัดศรัทธาผมเลยจัดให้อีก 1 ดอกก่อนจะกลับห้องซึ่งหลับไปนานมากตื่นมาอีกทีตอน 10 โมง แต่เพื่อนผมก็ยังไม่ตื่นผมจึงได้กลับบ้านไป หลังจากวันนั้นผมกับพี่แกก็เอากันทุกคืนบางทีกลางวันถ้ามีโอกาสเราก็เอากัน บางครั้งเอากันต่อหน้าลูกชายวัยสองขวบกว่าของแกจนลูกแกร้องไห้เพราะได้ยิน เสียงร้องของแม่นึกว่าแม่ร้องไห้ก็มีโดยไม่กลัวแกท้องเพราะแกบอกแกทำหมัน แล้ว จนถึงปีใหม่แฟนแกมาผมจึงไม่ได้ไปนอนบ้านแกอีก แต่ก็ไปนอนบ้านเพื่อนบ้างเป็นบางครั้งและหลังจากนั้นจนจบม.ปลายก็มีโอกาส อยู่เรื่อยๆไม่ค่อยบ่อยเพราะลูกแกเริ่มโต จนกระทั่งผมจบม.ปลายเข้ามาเรียนต่อในเมืองจึงไม่ได้มีอะไรกันกับพี่แกอีกเลย จนบัดนี้แต่ผมก็ไม่เคยลืมประสบการณ์ที่แกมอบให้